World News

‘หน้าต่างแปลภาษาอัตโนมัติ’ เทคโนโลยี ช่วยต่างชาติไม่หลงทางในโตเกียว

“ญี่ปุ่น” ประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เหมือนหลุดมาจากการ์ตูนยอดนิยมของวัยเด็กหลายคน นำเสนอแนวคิดล่าสุด “หน้าต่างแปลภาษาอัตโนมัติ”  ที่จะช่วยอาสาแก้ปัญหาหลงทาง และคลายอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่มากก็น้อย

วีโอเอ รายงานว่า ในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวหลังจากการเกิดโรคระบาดใหญ่ “เซบุ เรลเวย์” ของญี่ปุ่นก็กำลังทดสอบ “หน้าต่างแปลภาษาอัตโนมัติ” เพื่อช่วยนำทางชาวต่างชาติ ที่ไม่รู้ทิศทางในการเดินทาง จากศูนย์กลางการคมนาคมที่ซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว

หน้าต่างแปลภาษา

หน้าต่างแปลภาษาอัตโนมัติ หรือ “VoiceBiz” พัฒนาขึ้นโดยบริษัทการพิมพ์ “ทอปปัง” ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถพูดคุยกับผู้ดูแลสถานีผ่านไมโครโฟนได้ โดยคำพูดเหล่านั้นจะปรากฏขึ้นบนหน้าต่างช่องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งเป็นหน้าจอกึ่งโปร่งใสเป็นภาษาญี่ปุ่น และภาษาอื่น ๆ อีก 11 ภาษา

เควิน คานิ หนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หลงทางอยู่ที่สถานีรถไฟ เซบุ-ชินจูกุ เมื่อไม่นานมานี้ พบว่าหน้าต่างแปลภาษาอัตโนมัตินี้ ช่วยเขาได้มากเลยทีเดียว

ชายเยอรมันวัย 30 ปีผู้นี้ กล่าวว่า หน้าต่างแปลภาษาสามารถแปลภาษาได้อย่างถูกต้อง และว่า “อาจจะฟังดูแปลก ๆ สักหน่อย แต่คุณจะรู้สึกปลอดภัยทันที เพราะสามารถมองเห็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งผ่านกระจกใส ดังนั้น ให้ค่อย ๆ อธิบาย แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการ”

เซบุ เรลเวย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทเซบุ โฮลดิงส์ ได้ติดตั้งหน้าต่างแปลภาษาที่สถานีรถไฟเซบุ-ชินจูกุ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของสายรถไฟสายหนึ่งในใจกลางกรุงโตเกียว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อทดลองใช้เป็นเวลา 3 เดือนก่อนที่จะพิจารณาขยายการใช้งานในวงกว้างขึ้น

สถานีรถไฟเซบุ-ชินจูกุนี้ มีผู้โดยสารเดินทางประมาณวันละ 135,000 คน รวมถึงชาวต่างชาติจำนวนมาก ที่เดินทางระหว่างจุดท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น สวนสนุกแฮรี่ พอตเตอร์แห่งใหม่ของกรุงโตเกียว

ย่านชินจูกุ ถือเป็นสนามทดสอบที่ดีที่สุดสำหรับเทคโนโลยีค้นหาเส้นทางนี้ เพราะเป็นย่านที่มีเส้นทางรถไฟหลายสาย โดยมีทั้งสายที่เชื่อมต่อกัน และไม่ได้เชื่อมต่อกัน อีกทั้งยังมีสถานีขนส่งขนาดใหญ่อีกด้วย

หน้าต่างแปลภาษา

ฝั่งตรงข้ามถนนจากสถานีรถไฟเซบุ ก็คือสถานีรถไฟกลางของญี่ปุ่น (JR) ซึ่งเป็นสถานีที่พลุกพล่านที่สุดในโลก โดยมีผู้คนเดินทางผ่านสถานีนี้ประมาณวันละ 3.6 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟกลางกับรถไฟสายอื่น ๆ ตลอดจนรถไฟใต้ดินหลายสายที่ดำเนินการโดยบริษัทอื่น ๆ อีกด้วย

อายาโนะ ยาจิมะ หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาดของเซบุ เรลเวย์ กล่าวว่า เป้าหมายของบริษัทในการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ก็คือการพัฒนาการสื่อสารให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้น โดยการที่ผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่สามารถมองหน้ากันผ่านกระจกใสได้

นอกจากนี้แล้ว อุปกรณ์ดังกล่าว ยังถูกนำไปทดลองใช้ที่สนามบินนานาชาติคันไซเมื่อต้นปีนี้ และทอปปัง ยังมีเป้าหมายที่จะจำหน่ายนวัตกรรมนี้ให้กับภาคธุรกิจ และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในญี่ปุ่น เพื่อใช้ในการลดช่องว่างทางภาษา ทั้งกับนักท่องเที่ยว และผู้อพยพต่างชาติ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo