‘ญี่ปุ่น’ ดัน ‘เมืองเล็ก’ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ดึงดูดต่างชาติ

โดย KANYAPORN PHUAKVISUTHI 11 มิถุนายน 2566

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น กำลังวางเดิมพันถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เดินทางไปเที่ยวตามเมืองเล็ก ๆ แทนที่จะกระจุกตัวอยู่ตามแห่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของประเทศ

นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งจากภาวะซบเซาอย่างหนัก หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุม และป้ิองกันการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก ทำให้ญี่ปุ่น กลายเป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายถูกลงสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ตามปกติแล้ว จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ต้องไปให้ได้ มักจะเป็นกรุงโตเกียว นครโอซาก้า และเกียวโต แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาเป็นครั้งที่สอง สาม หรือสี่ ก็มักจะมีความคาดหวังสูง ที่จะได้เดินทางไปยังสถานที่อื่น ๆ นอกเหนือจากเมืองใหญ่ ๆ เหล่านี้

ความต้องการดังกล่าว ยังทำให้บรรดาโรงแรมต่างชาติ ที่มักกระจุกตัวอยู่ตามเมืองใหญ่มาเป็นเวลานาน พากันวางเดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยการขยายกิจการไปยังเมืองที่มีมีขนาดเล็กลง

กรณีข้างต้น รวมถึง แมริออท อินเตอร์เนชันแนล เชนโรงแรมชั้นนำของโลก ที่เพิ่งเปิดโรงแรมแห่งใหม่ “เชอราตัน คาโกชิมะ” ที่จังหวัดคาโกชิมะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ไปเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นโรงแรมหรูในเครือเชนโรงแรมต่างชาติแห่งแรกของจังหวัด ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟซากุราจิมะ

ก่อนหน้านี้ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา คู่แข่งของแมริออท อย่าง ฮิลตัน ก็เพิ่งเปิดโรงแรมแห่งใหม่ ดับเบิล ทรี บาย ฮิลตัน โทยามะ ที่จังหวัดโทยามะ ซึ่งอยู่ติดกับทะเล ทางตอนกลางของญี่ปุ่น ซึ่งการขยายตัวเส้นทางของรถไฟความเร็วสูง โฮคุริคุ ชินคันเซน เมื่อปี 2558 ช่วยให้การเดินทางจากกรุงโตเกียว มายังภูมิภาคนี้ สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งสนามบินท้องถิ่น ก็มีเที่ยวบินตรง มาจากเมืองต่างๆ ในเอเชียด้วย

นอกจากนี้ ฮิลตัน ยังมีแผนที่จะขยายการให้บริการ ไปยังมิยาโคจิมะ เกาะที่อยู่ห่างไกล ในเขตจังหวัดโอกินาวา โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจออกไปยังเมืองเล็ก ๆ ในญี่ปุ่นมากขึ้น และตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนโรงแรมตามสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศนี้ ให้ถึง 40 แห่ง ภายในปี 2569

ขณะที่ รัฐบาลญี่ปุ่นเอง ก็ได้ทุ่มงบประมาณ เพื่อช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่เหล่านี้เช่นกัน

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวต้นแบบ 11 แห่ง เพื่อสนับสนุนการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยหน่วยงานของรัฐจะส่งผู้เชี่ยวชาญ และจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 700 ล้านเยนสำหรับโครงการนี้ ในปีงบประมาณ 2566

“เราสนับสนุนจุดหมายปลายทางแต่ละแห่ง ไม่ใช่แค่การพัฒนาแผนแม่บท เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ยังรวมถึงการใช้จ่ายต่อหัวด้วย” ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ระบุ

ทางด้าน โนริโกะ ยากาซากิ ศาสตราจารย์ด้านนโยบายการท่องเที่ยว จากมหาวิทยาลัยคริสเตียนหญิงโตเกียว แสดงความเห็นว่า ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะไปกระจุกตัวตามสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ เพราะเพิ่งจะเดินทางมาญี่ปุ่นเป็นครั้ง หลังจากที่เว้นห่างไปสักพักหนึ่งในช่วงของโควิดระบาด แต่ภายในสิ้นปีนี้ เทรนด์การท่องเที่ยวจะก้าวไปสู่ช่วงเวลาใหม่ ที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านี้ จะกระจายตัวไปตามเมืองเล็ก ๆ มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้าในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวตามเมืองขนาดเล็กเหล่านี้

ยากาซากิ บอกว่า การที่จะให้ให้นักท่องเที่ยวกลับมาซ้ำนั้น ไม่เพียงแต่ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเขา ด้วยความน่าที่ดึงดูดใจต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังต้องป้องกันไม่ให้พวกเขารู้สึกผิดหวังด้วย โดยปัญหาที่ยังต้องแก้ไข รวมถึง การแปลข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ดี บริการขนส่งที่ไม่เพียงพอ และร้านค้าหลายแห่งยังคงรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น

“การพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจะก้าวขึ้นมาเป็นจุดหมายปลายทาง ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกที่จะมาเที่ยวชม”