ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะตึงตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
น้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ราคาเพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้ ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ราคาเพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 81.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวขึ้น 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ข้อมูลจาก FactSet บ่งชี้ว่า น้ำมันดิบราคาดีดตัวขึ้นอย่างมากในเดือนกรกฎาคม โดย WTI พุ่งขึ้นกว่า 9% และเบรนท์ พุ่งกว่า 8%
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่จีนประกาศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 ก.ค.) ว่า จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันจากจีน และจะช่วยดันราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ใกล้จะยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ย รวมไปถึงการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดะตึงตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากการปรับลดกำลังผลิตของซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ โวยหนัก ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังผลิตอีกวันละ 1.6 ล้านบาร์เรล ลั่น ไม่เหมาะสม!
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ เพิ่มคาดการณ์ ‘น้ำมันเบรนท์’ หลัง ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตเพิ่ม
- ฉุดไม่อยู่! ‘น้ำมัน WTI’ พุ่งเกือบ 6% ทะลุ 80 ดอลล์ หลัง ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังการผลิต