World News

‘สวอท์ช’ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลมาเลย์’ ยึดนาฬิการุ่นฉลองสิทธิ LGBTQ

ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ “สวอท์ช” ยื่นฟ้องรัฐบาลมาเลเซีย หลังโดนทางการยึดนาฬิกาข้อมือรุ่น “ไพรด์” ที่ออกมาเพื่อเฉลิมฉลองสิทธิกลุ่ม LGBTQ ระบุ นาฬิกา ไม่ได้เป็นการก่อกวนความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใด

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลสูง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียนั้น สวอท์ช กรุ๊ป ได้เรียกร้องค่าชดเชย และขอให้ส่งคืนนาฬิกา 172 เรือน ที่เจ้าหน้าที่ยึดไป โดยกล่าวหาว่า เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQ)

LGBTQ

บริษัทระบุในเอกสารคำร้องว่า การยึดนาฬิกาข้อมือมูลค่า 64,795 ริงกิต หรือเกือบ 500,000 บาท ไม่ได้เกิดขึ้นบนพื้นฐานทางกฎหมาย ทั้งสิ่งของที่ยึดไป ยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของกลุ่ม LGBTQ แต่อย่างใด

“นาฬิกาที่ยึดไปนั้นไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่มีทางที่จะเป็นสาเหตุของการขัดขวางความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือการละเมิดกฎหมายใดๆ อย่างแน่นอน” สวอท์ช ระบุในคำร้อง ที่ยื่นฟ้องต่อศาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา และมาเลย์ เมล สื่อท้องถิ่นมาเลเซีย นำมารายงานเป็นรายแรกในวันนี้ (17 ก.ค.)

รายงานข่าวบอกด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย ได้ยึดนาฬิกาข้อมือรุ่นไพรด์ (Pride) ของสวอทช์ ที่มีส่วนประกอบเป็นสีรุ้ง ซึ่งเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBTQ ระหว่างการบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าต่าง ๆ จำนวนหนึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ในเวลานั้น นายยิค เฮเยค ซีอีโอสวอท์ช กรุ๊ป ได้ออกมาตั้งคำถามต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ว่า “สันติภาพและความรัก เป็นอันตรายได้อย่างไร” และว่า ถ้าทำได้ เจ้าหน้าที่จะพยายาม “ยึดสายรุ้งบนท้องฟ้า” ด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ มาเลเซีย ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม กำหนดให้การรักร่วมเพศ เป็นการก่ออาชญากรรม ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนต่างออกมาเตือนว่า การไม่ยอมรับในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในมาเลเซียนั้น กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

LGBTQ

ที่ผ่านมา มาเลเซียเคยลงโทษจำคุก หรือเฆี่ยนบุคคลที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศมาแล้ว รวมถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2565 มีการจับกุมชาวมาเลเซีย 18 ราย ที่ปาร์ตี้งานฮาโลวีน ซึ่งมีสมาชิกกลุ่ม LGBTQ เข้าร่วมด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo