ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานขึ้นมาเกือบ 2% ขานรับ “ดัชนีราคาผู้ผลิต” ขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และเงินดอลลาร์อ่อนค่า
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ราคาเพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 81.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 0.9% ในเดือนพฤษภาคม และเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563
ข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.4% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ และให้น้ำหนัก 42.2% ลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 มกราคม 2567
การชะลอตัวของเงินเฟ้อ ยังส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อเข้าสู่ตลาด ดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 0.75% แตะระดับ 99.7696
ตลาดยังได้ปัจจัยหนุน จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2566 อีก 100,000 บาร์เรลต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในจีน ในช่วงไตรมาส 2
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ โวยหนัก ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังผลิตอีกวันละ 1.6 ล้านบาร์เรล ลั่น ไม่เหมาะสม!
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ เพิ่มคาดการณ์ ‘น้ำมันเบรนท์’ หลัง ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตเพิ่ม
- ฉุดไม่อยู่! ‘น้ำมัน WTI’ พุ่งเกือบ 6% ทะลุ 80 ดอลล์ หลัง ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังการผลิต