ที่ประชุมจีน-อาเซียนว่าด้วยการพัฒนาสังคม และการลดความยากจน ครั้งที่ 17 กระชับความร่วมมือ แก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาสังคม เน้นให้ความสำคัญฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19
สำนักข่าวซินหัว รายงานวันนี้ (28 มิ.ย.) ว่า การประชุมจีน-อาเซียนว่าด้วยการพัฒนาสังคมและการลดความยากจน ครั้งที่ 17 เปิดฉากขึ้นแล้วที่เมืองเป่ยไห่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน โดยมีคณะผู้แทนหน่วยงานรัฐบาลจีน และสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลประเทศอาเซียนในจีน ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ และผู้แทนทางธุรกิจเข้าร่วมมากกว่า 200 คน
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภาไทย ซึ่งเข้าร่วมการประชุมข้างต้น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำของไทย กล่าวว่า ความยากจน และความเหลื่อมล้ำ ระหว่างคนรวยและคนจน ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา โดยมาตรการลดความยากจนของไทย ควรอ้างอิงสภาพความเป็นจริงของสังคม เพราะแต่ละภูมิภาค มีสภาพทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมต่างกัน จึงไม่สามารถใช้วิธีการเดียวแก้ทุกปัญหาได้
ปัจจุบันไทยกำลังส่งเสริมโครงการก่อสร้างเขื่อน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ไร้การชลประทานเข้าถึงแหล่งน้ำ ส่วนประสบการณ์การลดความยากจนของไทยยังคงมีจำกัด แม้ประสบผลสำเร็จส่วนหนึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นการประชุมครั้งนี้ ซึ่งมีหัวข้อ “กระชับความร่วมมือระดับภูมิภาค ส่งเสริมการลดความยากจน และการพัฒนาชนบท” จะช่วยให้ไทยได้เรียนรู้ประสบการณ์เพิ่มเติมจากจีน
ทางด้าน นายเอกภาพ พันธวงศ์ รองเลขาธิการอาเซียน แสดงความหวังว่า การประชุมครั้งนี้จะนำสู่การหารือเพิ่มเติม และการกำหนดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำที่เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ และคนกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ ต้องเผชิญ
พร้อมชี้ว่านโยบายการพัฒนาเชิงปฏิบัติ ควบคู่กับความร่วมมือระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่ง สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ด้อยโอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ยังให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโรคระบาดใหญ่ และการป้องกันการกลับสู่ความยากจน พร้อมแสดงความยินดีกระชับการแลกเปลี่ยน และความร่วมมือกับจีน ในด้านการพัฒนาสังคม และลดความยากจน ร่วมมือส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ประสานพลังรับมือความท้าทายระดับโลกอย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บรรลุการพัฒนาสีเขียวที่ยั่งยืน และมีส่วนส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-อาเซียน ที่มีอนาคตร่วมกันยิ่งขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อินโดนีเซีย’ ย้ายที่ซ้อมรบอาเซียนออกจากทะเลจีนใต้ เลี่ยงข้อพิพาทจีน
- ‘จีน-อาเซียน’ เริ่มเจรจา ‘เอฟทีเอ 3.0’ รอบแรก
- ‘จีน-อาเซียน’ จัดตั้ง ‘ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน’ อย่างเป็นทางการ