ซีดีซี เผยผลสำรวจล่าสุด พบ วัยรุ่นหญิงในสหรัฐ ต้องเผชิญกับความรุนแรง ซึมเศร้า และเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดผลสำรวจ “พฤติกรรมเสี่ยงเยาวชน” ที่จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้ง โดยพบว่า เด็กผู้หญิงราว 57% รู้สึกเศร้า หรือสิ้นหวังตลอดเวลาในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 36% ในปี 2554 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ขณะตัวเลขดังกล่าวในวัยรุ่นชายเพิ่มขึ้นจาก 21% ในปี 2554 เป็น 29% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักเรียนกลุ่ม LGBQ+ ส่วนใหญ่ (52%) มีสุขภาพจิตย่ำแย่ และมากกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนนี้ พยายามฆ่าตัวตายในปีที่ผ่านมา
ดร. เดบรา อาวรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และรองผู้อำนวยการฝ่ายโปรแกรม และวิทยาศาสตร์ของ ซีดีซี ระบุว่า ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นภาพที่น่าวิตก เด็กสาววัยรุ่นในอเมริกา จมอยู่ในคลื่นแห่งความโศกเศร้า ความรุนแรง และความบอบช้ำทางจิตใจที่เพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลล่าสุด ยังแสดงให้เห็นว่า มีเยาวชนที่ไม่ได้ไปโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย ทั้งยังมีเด็กสาวที่ประสบปัญหาความรุนแรงทางเพศ และวัยรุ่นชายที่ประสบปัญหาการกลั่นแกล้งทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มมากขึ้นด้วย
ผลสำรวจ ระบุว่า เกือบหนึ่งในห้าของเด็กสาววัยรุ่น (18%) เคยประสบกับความรุนแรงทางเพศในปีที่ผ่านมา และประมาณหนึ่งในเจ็ด (14%) เคยถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์
บรรดาแกนนำซีดีซี พร้อมด้วยนางแอนนา คิง ประธาน สมาคมครูผู้ปกครองแห่งชาติสหรัฐ (เนชันแนล พีทีเอ) เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของโรงเรียน โดยดร.อาวรี ชี้ว่า โรงเรียน ถือเป็นแนวหน้าของการรับมือกับวิกฤติสุขภาพจิต พวกเขาต้องติดตั้งเครื่องมือที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้นักเรียนผ่านพ้นปัญหาไปได้
เครื่องมือเหล่านี้ ได้แก่ การฝึกอบรมครู และเจ้าหน้าที่ ให้รู้จัก และจัดการกับความท้าทายด้านสุขภาพจิต โปรแกรมการให้คำปรึกษาและการให้คำปรึกษา และอื่น ๆ ที่ส่งเสริมการเชื่อมโยง และการแทรกแซง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นักวิจัยนิวซีแลนด์หารือ ‘ปรับเวลาเข้าเรียนช้าลง’ ช่วยวัยรุ่นนอนหลับมากขึ้น
- จีนจ่อนำร่อง ใช้ ‘แพทย์แผนจีน’ ป้องกัน ‘เด็ก-วัยรุ่น’ สายตาสั้น
- เด็กวัยรุ่นรัสเซีย ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในโรงเรียน โชคดีไร้คนตาย