ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ลงนามร่างกฎหมายให้ความคุ้มครองระดับรัฐบาลกลาง ต่อการสมรสเพศเดียวกัน โดยมีแขกของทำเนียบขาวจำนวนมากมาเป็นสักขีพยานการลงนามร่างกฎหมายสำคัญนี้
ประธานาธิบดีไบเดนประกาศตัวสนับสนุนการครองคู่ของคนเพศเดียวกัน ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ก่อนที่ศาลฎีกาสหรัฐมีคำตัดสินในปี 2558 ให้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวขณะลงนามร่างกฎหมายที่ทำเนียบขาวช่วงบ่ายวานนี้ (13 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า กฎหมายนี้คือชัยชนะด้านสิทธิ ชาวอเมริกันได้เดินหน้าก้าวสำคัญที่มุ่งไปสู่ความเสมอภาค เสรีภาพ และความยุติธรรม ที่ไม่ใช่สำหรับบางคน แต่สำหรับทุกคน
ผู้นำสหรัฐได้พูดคุยกับแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งมีทั้งสมาชิกสภาพรรคเดโมแครต พรรครีพับลิกัน ผู้สนับสนุนและโจทก์ในคดีสมรสเท่าเทียมจากทั่วประเทศ โดยมีเสียงเพลง Born This Way ของเลดี้ กาก้าดังกระหึ่มในพิธีลงนาม
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายเคารพการแต่งงาน (Respect for Marriage) ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาครั้งสุดท้ายเมื่อสัปดาห์แล้ว สมาชิกสภาทั้ง 2 พรรคร่วมใจกันผลักดัน เพราะเกรงว่าจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อจำกัดสิทธิการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน หลังจากศาลฎีกา ที่ขณะนี้มีผู้พิพากษาสายอนุรักษ์นิยมครองเสียงข้างมาก ยกเลิกสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการทำแท้งเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้
กฎหมายนี้ไม่ได้กำหนดให้รัฐบาลระดับรัฐต้องประกาศให้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่ต้องยอมรับการแต่งงานใด ๆ ก็ตามที่ถูกกฎหมายในรัฐที่การแต่งงานเกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงเพศ เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ หรือประเทศที่ถือกำเนิด และได้ยกเลิกกฎหมายเดิมที่นิยามการแต่งงานว่า หมายถึงการครองคู่ระหว่างชายกับหญิง
ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส.ส. แนนซี เพโลซี ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งในเดือนมกราคม กล่าวก่อนลงนามในร่างกฎหมายนี้ว่า “เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของความรักและเสรีภาพ”
องค์กรทางศาสนาคริสต์หลายกลุ่ม ยังได้หันมาสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ รวมทั้ง The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints ที่ระบุว่าจะสนับสนุนสิทธิของคนเพศเดียวกันตราบเท่าที่ไม่ขัดแย้งกับสิทธิของกลุ่มทางศาสนาตา่ง ๆ ตามความเชื่อของพวกเขา
เคลลี โรบินสัน ว่าที่ประธานองค์กร Human Rights Campaign กล่าวว่า การผ่านร่างกฎหมายนี้แสดงให้เห็นว่า อเมริกาให้ความสำคัญกับกลุ่มคน LBGTQ มากขึ้น และว่า “พวกเราถือเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่หล่อหลอมสังคมอเมริกัน”
ภาพ: เฟซบุ๊กเพจ The White House, Joe Biden
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สิงคโปร์’ จ่อยกเลิกกม.อาญา ห้ามชายมีเซ็กส์ร่วมเพศ ยังเมินสมรสเพศเดียวกัน
- ‘นางงามเมียนมา’ สาวรักร่วมเพศแบบเปิดตัว คนแรกในประวัติศาสตร์เวทีมิสยูนิเวิร์ส
- บรูไนระงับโทษประหารชีวิตชาวรักร่วมเพศ