สภาทองคำโลกรายงานว่าในเดือนพ.ย. กองทุน ETFs ทองคำ เทขายทองคำอย่างหนักในรอบ 12 เดือน และเป็นเดือนที่มีเงินไหลออกจากตลาดทองคำมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึก
ยอดถือครองของบรรดากองทุน ETFs ลดลง 107 ตัน หรือ ประมาณ 6.8 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุดของราคาทองคำ โดยร่วงลงไปแตะ 1,763 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือราว 6.3% ราคาทองคำร่วงหนักที่สุดตั้งแต่เดือนพ.ย. 2016
ในเดือนพ.ย. ตลาดหุ้นปรับตัวได้ดีและความเสี่ยงจากผลกระทบโควิด-19 ลดลงจากข่าววัคซีน โดยมีแรงเทขายจากกองทุน ETF ทั่วโลก โดยกองทุน ETF จากสหรัฐขายออก 62 ตัน มูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ กองทุนจากยุโรป ขายออก 43 ตัน มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ กองทุนจากเอเชีย ขายออก 400 ตัน มูลค่า 35 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนจากประเทศอื่นก็ขายออกเช่นกัน รวม 2 ตัน มูลค่า 126 ล้านดอลลาร์
แต่ในปีนี้ มีเงินไหลเข้าตลาดทองคำสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพ.ย. 916 ตัน คิดเป็น 50.3 พันล้านดอลลาร์ อยู่ในระดับสูงที่สุดรายปีตั้งแต่มีการบันทึกมา แม้ว่าใยอดสุทธิในเดือนพ.ย.จะต่ำกว่าในเดือนต.ค. ที่มีปริมาณ 1,022 ตัน
นักวิเคราะห์จากสภาทองคำโลกระบุว่าในเดือนพ.ย. มูลค่าการซื้อขายยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยการซื้อขายล่วงหน้าในเดือนพ.ย.ลดลงเหลือ 746 ตัน เทียบกับเดือนต.ค. ที่ 766 ตัน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปีนี้ แต่ก็ถือว่ายังสูงเหนือรัดบค่าเฉลี่ยระยะยาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นทิศทางราคาทองคำในอนาคต โดยตลาดอาจจะไม่ผันผวนมากนัก แม้จะเจอแรงเทขาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
- เปิด 5 คำถามกับนักลงทุนมือใหม่ ใครคือขาใหญ่ในตลาดทองคำโลก?
- เปิด10 อันดับประเทศ ‘ตุนทองคำมากที่สุด’ ไทยติดที่ 28 โลก ถือครอง 154 ตัน
- ขาใหญ่มาแล้ว! ทองคำ ‘ขึ้นไม่ไกล-ลงไม่ลึก’ ธนาคารกลางกลับเข้าตลาด
