ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (18 พ.ย.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,733.14 จุด ทะยานขึ้น 186.82 จุด หรือ 0.56% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,963.06 จุด ปรับขึ้น 16.50 จุด หรือ 0.42% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,147.26 จุด บวก 2.30 จุด หรือ 0.02%
หุ้นพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันทรุดตัวลงในตลาดโลก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในจีน และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในกรอบที่ถือว่ามีการคุมเข้มมากเพียงพอ โดยเขาบอกว่า แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75-4.00% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่มองว่า มีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีประสิทธิภาพคือ 5-7%
ทางด้านนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ แสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว
ตลาดจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันที่ 23 พฤศจิกายน เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 66 โตเพียง 2.7% ‘อาเซียน 5’ ขยายตัว 4.9% เตือนเศรษฐกิจถดถอย
- ‘ยูเอ็นดีพี’ เตือน ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ กำลังเจอวิกฤติหนี้ ชี้ต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือทันที
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ค่าเงินเอเชีย’ อ่อนค่าลงอีก หลัง ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง