บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (7-11 พ.ย.) มีแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,640 และ 1,650 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนตุลาคม ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 ของบจ.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนตุลาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนกันยายน ของยูโรโซน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนตุลาคม ของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนตุลาคม ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และข้อมูลการส่งออก
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม โดย SET Index ดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค แรงหนุนจากกระแสข่าวที่ว่า จีนกำลังพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ ประกอบกับมีแรงซื้อต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยระหว่างสัปดาห์มีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งแม้จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามตลาดคาด แต่ได้ส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยนานกว่าที่ประเมินกันไว้
ส่วนช่วงปลายสัปดาห์ หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบระหว่างรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ โดยหุ้นกลุ่มที่มีแรงซื้อเข้ามามากสุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ธนาคาร และการเงิน
ในวันศุกร์ (4 พ.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,626.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.26% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 61,350.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.25% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.41% มาปิดที่ระดับ 645.20 จุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ พร้อมพัฒนา ‘ตู้ฝากเงินอัตโนมัติ’ รองรับการยืนยันตัวตน 1 มิ.ย. 66
- ‘นฤมล’ คาด ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยทำ ‘ค่าเงินบาท’ อ่อนต่อ ค้านแทรกแซง แนะเอกชนป้องกันความเสี่ยง
- ประกันสังคม ม.33 เช็ก ‘ลดหย่อนภาษีปี 2565’ หลังลดอัตราเงินสมทบ เช็กเลย