ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดีดกว่า 500 จุด และ “แนสแด็ก” พุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,197.68 จุด ดีดขึ้น 562.85 จุด หรือ 1.90% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,678.50 จุด ทะยานขึ้นมา 95.43 จุด หรือ 2.66% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,654.87 จุด พุ่งขึ้น 333.48 จุด หรือ 3.23%
ราคาหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังเปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการซื้อขายตราสารหนี้ และรายได้จากดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการที่ปอนด์พุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษในการยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีก่อนหน้านี้
การอ่อนค่าของดอลลาร์ ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับกำไรของบริษัทจดทะเบียน ที่มีรายได้จากต่างประเทศ
ส่วนการปรับตัวลงของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และทำให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ปี 66 โตเพียง 2.7% ‘อาเซียน 5’ ขยายตัว 4.9% เตือนเศรษฐกิจถดถอย
- ‘ยูเอ็นดีพี’ เตือน ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ กำลังเจอวิกฤติหนี้ ชี้ต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือทันที
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ค่าเงินเอเชีย’ อ่อนค่าลงอีก หลัง ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง