Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดลบ 28.34 จุด หวั่นเร่งขึ้นดอกเบี้ย-เงินเฟ้อพุ่งสูง

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (12 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลงเล็กน้อย เหตุนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง และภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 29,210.85 จุด ลดลง 28.34 จุด หรือ -0.10% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,577.03 จุด ลดลง 11.81 จุด หรือ -0.33% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,417.10 จุด ลดลง 9.09 จุด หรือ -0.09%

ดาวโจนส์

ตลาดปรับตัวลง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนสิงหาคม

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอ เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.4% จากระดับ 8.7% ในเดือนก่อนหน้านั้น ซึ่งดัชนีราคาผู้ผลิต ที่สูงเกินคาด จะเป็นปัจจัยหนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

นอกจากนี้ ยังถูกกดดันหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนกันยายนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดแสดงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ระดับสูง และหลายรายวิตกว่าเฟดดำเนินการน้อยเกินไปในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยในการประชุมครั้งนี้  เฟดลงมติขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เพื่อพยายามลดเงินเฟ้อลงจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดลบ นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งร่วงลง 3.42% และ 1.39% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงิน ลดลง 0.3% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน บวก 0.75%

หุ้นเป๊ปซี่โค พุ่งขึ้น 4.2% สวนทางตลาด หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรประจำปี และหุ้นอัลโค คอร์ป พุ่งขึ้น 5.3% หลังมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะจำกัดการนำเข้าอะลูมิเนียมจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ที่รัสเซียที่ยกระดับการโจมตีในยูเครน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo