Stock

หวั่นเศรษฐกิจโลกขาลง-ตลาดอังกฤษป่วน ฉุด ‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 400 จุด ใกล้หลุดเส้น 29,000 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (29 ก.ย.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงกว่า 400 จุด ใกล้หลุดระดับ 29,000 จุด ท่ามกลางความวิตกถึงขาลงของเศรษฐกิจโลก จากการที่ธนาคารกลางหลายชาติ พากันเร่งขึ้นดอกเบี้ย และความเสี่ยงที่จะไดรับผลกระทบจากความวุ่นวายในตลาดอังกฤษ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 29,260.76 จุด ร่วงลง 422.98 จุด หรือ 1.42% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,641.99 จุด ดิ่งลง 77.05 จุด หรือ 2.07% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,727.42 จุด ร่วงลง 324.22 จุด หรือ 2.93%

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ใกล้หลุดระดับ 29,000 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัวลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

ดาวโจนส์

ดัชนีดาวโจนส์เข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) หลังจากทรุดตัวลงกว่า 20% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในเดือนมกราคม ทั้งยังดิ่งลง 7% จากต้นเดือนกันยายน ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ร่วงลง 7.5% และ 8.4% ตามลำดับ

สถาบันวิจัย CFRA ระบุว่า สถิติบ่งชี้ว่า เดือนกันยายน เป็นเดือนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวย่ำแย่ที่สุดของปี ทั้งปีนี้ ซึ่งมีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ จะทำให้ตลาดหุ้นยิ่งมีแนวโน้มดิ่งลงในเดือนกันยายน เนื่องจากนักลงทุนมักทำการเทขายหุ้นอย่างหนักในเดือนนี้ และเดือนตุลาคม ของปีปีเลือกตั้ง ก่อนที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นในไตรมาส 4

หุ้นทุกกลุ่มในตลาดปรับตัวลงในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.6% ในไตรมาสดังกล่าว ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ระบุว่า เศรษฐกิจหดตัว 0.9%

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุภารกิจในการควบคุมเงินเฟ้อของเฟด อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และเขาจะยังไม่พิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทั้งยังกังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ 193,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 213,000 ราย

ทั้งตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวยังน้อยกว่าจำนวน  215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ และจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 29,000 ราย มาอยู่ที่ 1.35 ล้านราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo