ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเผยยอดค้าปลีกซบเซาเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 35,266.84 จุด ร่วงลง 358.56 จุด หรือ 1.01% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,438.21 จุด ลดลง 41.50 จุด หรือ 0.93% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,617.81 จุด ลดลง 175.95 จุด หรือ 1.19%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.3% ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา รวมทั้ง การที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้หมดอายุลง
พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยังได้ปรับทบทวนยอดค้าปลีกในเดือนมิถุนายน เป็นเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.6%
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.0% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนมิถุนายน
ดาวโจนส์ เจอแรงกดดันหลายด้าน
ดัชนีดาวโจนส์ยังถูกกดดันจากการดิ่งลงกว่า 3% ของราคาหุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ซึ่งแม้เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทเปิดเผยว่า ลูกค้าที่เดินทางเข้าร้านเพื่อซื้อสินค้าประเภท DIY หรือ do-it-yourself มีจำนวนลดลงถึง 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น หลังสหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงต่ำสุดรอบ 1 ปี ในเดือนนี้
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 75 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 สาเหตุจากสต็อกบ้านที่มีจำกัด การขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน และต้นทุนในการก่อสร้าง
อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงปรับตัวเหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นต่อยอดขายในช่วง 6 เดือนข้างหน้าทรงตัวที่ระดับ 81 แต่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อยอดขายในปัจจุบันร่วงลงสู่ระดับ 60
ขณะเดียวกัน ตลาดกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำการประกาศในเดือนหน้า เกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะเริ่มทำการปรับลด QE ในเดือนตุลาคมนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ค.ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดแรงเกินคาด!! ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เป็นติดลบ 0.5%
- รัฐบาลแฮปปี้!! เงินลงทุนรัฐวิสาหกิจตามเป้า ช่วยพยุงเศรษฐกิจ
- สคร.ปลื้ม!! รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุน 101% ดันการลงทุน พยุงเศรษฐกิจ
