ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.) ปรับตัวในช่วงแคบ ขณะที่นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และได้แรงหนุนบางส่วนจากข้อมูลกิจกรรมโรงงาน เดือนมิถุนายนที่ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,919.73 จุด ลดลง 25.85 จุด หรือ 0.08% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,248.95 จุด ขยับขึ้น 2.51 จุด หรือ 0.06% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,274.37 จุด บวก 21.10 จุด หรือ 0.15%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นในวันนี้ ขานรับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับตัวขึ้นทะลุ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นในวันนี้เช่นกัน
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป
“ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดจำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเรามองว่าการดีดตัวของเงินเฟ้อเป็นผลกระทบโดยตรงที่เกิดจากการเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐ เราจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควรเพียงเพราะความกังวลเรื่องเงินเฟ้อเพียงปัจจัยเดียว แต่เราจะรอให้มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากเงินเฟ้อหรือภาวะไร้สมดุลในด้านอื่นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย” นายพาวเวลกล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายรายในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าววานนี้ว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
“ดิฉันมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฟดอาจบรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 2% ในเวลาอีกไม่นาน ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถลดวงเงิน QE จากระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเราอาจบรรลุเป้าในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า” นางดาลีกล่าว
นายพาวเวลเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กรรมการเฟดจะหารือกันในเดือนหน้าเกี่ยวกับกำหนดเวลาและวงเงิน QE ที่จะมีการปรับลดลง
ความเห็นของนางดาลีสอดคล้องกับนายพาวเวลและกรรมการเฟดรายอื่นที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเฟด
วันนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 62.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 62.1 ในเดือนพฤษภาคม แต่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 64.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 70.4 ในเดือนพฤษภาคม ทำให้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 63.9 ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 68.7 ในเดือนที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาตลาดป่วนรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น
- คาดเฟดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ไม่หวั่นเงินเฟ้อพุ่ง เพื่อประคองเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว