ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ดีดตัวสูงจึ้น ท่ามกลางแรงซื้อที่กลับเข้าสู่หุ้นเทคโนโลยี ขณะที่ตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงแตะระดับต่ำสุด ในรอบกว่า 1 ปี ช่วยหนุนความรู้สึกของนักลงทุนให้ดีขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,168.44 จุด ทะยานขึ้นมา 272.40 จุด หรือ 0.80% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,159.06 จุด ปรับขึ้น 43.38 จุด หรือ 1.05% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,510.08 จุด พุ่งขึ้น 210.34 จุด หรือ 1.58%
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ ร่วงลงมาอยู่ที่ 444,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ทั้งยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 452,000 ราย และต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ที่ระดับ 478,000 ราย
ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.75 ล้านราย
อย่างไรก็ดี ขาขึ้นของตลาดยังโดนสกัด จากการที่ นักลงทุนยังคงกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 0.5% เมื่อคืนนี้ หลังรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกัน เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเสนอให้เริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชน หลังราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลง จากข่าวที่ว่ารัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมเงินดิจิทัล
วันนี้ ราคาหุ้นเทสลา และหุ้นเทคโนโลยีต่าง ๆ ยังฟื้นตัวขึ้นมา แรงหนุนจากราคาบิตคอยน์ ที่ดีดขึ้นสูงอีกครั้ง โดยราคาพุ่งขึ้นมา 7% ยืนอยู่เหนือระดับ 41,500 ดอลลาร์ หลังจากเมื่อวานนี้ ดิ่งลงไปเคลื่อนไหวที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- EIC คาดโควิดระลอกใหม่ยืดเยื้อ 3 เดือน ไทยเสี่ยง ‘เศรษฐกิจถดถอย’ ซ้ำรอยเดิม
- กสิกรไทยหั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 1.8% จากผลกระทบโควิดรอบใหม่
- คาดเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว