ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ทะยานสูงขึ้น หลังข้อมูลแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมโรงงาน ที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนเมษายน ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ราคาหุ้น อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และฮันนีเวลล์ ที่ร่วง ยังถ่วงขาขึ้นเอาไว้
ตลาดยังได้แรงหนุน จากการที่นักลงทุน คลายความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการปรับเพิ่มภาษีกำไร ที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) หลังโกลด์แมน แซคส์ คาดว่า สภาคองเกรสจะปรับลดขนาดของภาษีดังกล่าวลงมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,992.09 จุด ทะยานขึ้น 176.19 จุด หรือ 0.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,175.88 จุด ปรับขึ้น 40.90 จุด หรือ 0.99% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,004.06 จุด พุ่งขึ้น 185.65 จุด หรือ 1.34%
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 62.2 ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 59.7 ในเดือนมีนาคม โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว ทั้งภาคการผลิตและบริการ
ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจพุ่งขึ้น ขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 60.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 59.1 ในเดือนมีนาคม ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 63.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 60.4 ในเดือนที่แล้ว
ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีแผนที่จะปรับเพิ่มภาษี capital gains tax สูงถึง 43.4% สำหรับชาวอเมริกันที่ร่ำรวย ทั้งยังจะให้มีการปรับเพิ่มภาษีสู่ระดับ 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันเรียกเก็บที่ระดับ 20%
อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสจะพิจารณาทบทวนข้อเสนอดังกล่าวของนายไบเดน โดยจะปรับลดขนาดของอัตราภาษีดังกล่าวเหลือเพียง 28%
ขาขึ้นของตลาด ยังโดนรั้งไว้ จากราคาหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ที่ดิ่งลง 3.4% หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสร่วงลง และภาวะซบเซาในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
เช่นเดียวกับราคาหุ้นฮันนีเวลล์ ที่ร่วงลงมา 2.7% จากการที่หน่วยงานด้านอากาศยานซึ่งเป็นธุรกิจใหญ่สุดของบริษัท ทำรายได้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาตลาดป่วนรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น
- ‘พาวเวล’ ระบุ ‘โควิด’ ชี้ชะตาเศรษฐกิจสหรัฐ ย้ำ ‘นโยบายคลัง’ เครื่องมือช่วยฟื้นตัว
- YLG ฟันธง!! ราคาทองยังไปต่อ หลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำยาว
