Economics

YLG ฟันธง!! ราคาทองยังไปต่อ หลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำยาว

ราคาทองคำ ยังไปต่อ YLG ฟันธง! หลังธนาคารกลางสหรัฐพร้อมส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำยาวต่อเนื่องถึงปี 2566 แนะนักลงทุนหาจังหวะทยอยซื้อสะสม หากไม่หลุดแนวรับ 1,839 ดอลลาร์

YLG เผยทองคำยังไปต่อหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0 – 0.25% พร้อมส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำยาวต่อเนื่องถึงปี 2566 และยังคงนโยบายซื้อสินทรัพย์เดือนละ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ กดดันดอลลาร์หนุนราคาทองคำในตลาดโลกฟื้น แนะนักลงทุนหาจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดบริเวณ 1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำในประเทศ ยังถูกกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่า แนะนักลงทุนเทรดผ่านออนไลน์ ซื้อขายเป็นดอลลาร์ ปิดความเสี่ยงการเคลื่อนไหวค่าเงิน

ราคาทองคำ
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.00 – 0.25% ในการประชุมประจำเดือน ธันวาคม

พร้อมทั้งยืนยัน การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่ม หากมีความจำเป็น เพราะถึงแม้ว่าวัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นปัจจัยบวก แต่ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งขึ้น ทำให้ยังไม่สามารถ คาดการณ์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ในขณะนี้ ซึ่งผลของการประกาศนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ เฟด ยังส่งสัญญาณว่า จะยังคงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ไปจนถึงปี 2566 เนื่องจากเฟด ยังคงต้องใช้เครื่องมือสนับสนุนเศรษฐกิจ ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตราบใดที่ทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ก็จะยังคงทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดทองคำ อีกทั้ง การที่เฟดมีนโยบายยังคงซื้อสินทรัพย์ อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน จนกว่าจะมีความคืบหน้าอย่างมาก ไปสู่การบรรลุเป้าหมาย การจ้างงานเต็มประสิทธิภาพ และเสถียรภาพด้านราคา ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลให้มีเงินไหลเข้าตลาดทองคำเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการเคลื่อนไหว ของราคาทองคำ ที่ปรับตัวขึ้นมารับข่าวการประชุมของเฟดนั้น มองว่า ในระยะสั้นราคามีทิศทางค่อยๆ ปรับตัวขึ้น แต่ยังต้องระวังแรงขายที่อาจสลับออกมาเป็นระยะ แต่ภาพในระยะยาว มองว่า ยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ ตราบใดที่ราคายังคงสามารถทรงตัวเหนือระดับแนวรับสำคัญบริเวณ 1,750 – 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำหาจังหวะซื้อ หากราคาไม่หลุดบริเวณ 1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อหวังขายทำกำไรบางส่วนเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,887 – 1,899 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งนี้ ในส่วนของราคาทองคำในรูปเงินบาทนั้น ปัจจุบันถือว่า ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำในตลาดโลก

ดังนั้น นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนทองคำในตลาด TFEX ผ่านการลงทุนโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส (Gold Online Futures) ที่เป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้าในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ กับ บ.วายแอลจี ฟิวเจอร์ส ทำให้นักลงทุนไม่ต้องมีความกังวลด้านความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงินบาท อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุน

ราคาทองคำ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ราคาทองคำ วันนี้ (18 ธ.ค.) ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 26,350 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 26,550 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 25,969.08 บาท และขายออก ที่บาทละ 27,050 บาท ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,880 ดอลลาร์ ต่อออนซ์

ราคาทองคํา Spot ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ในประเทศเงินบาทแข็ง กดดันทองปรับขึ้นได้ไม่มาก

ทองคำพุ่งขึ้นแรงกว่า 30 ดอลาร์ ขานรับมติเอกฉันท์ของเฟดที่คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ในขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นอีกปัจจัยหนุนต่อแรงซื้อในตลาดทองคำ จากคำกล่าวล่าสุดของ นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ว่าสภาคองเกรสมีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล

คืนวันนี้ไม่มีรายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ แต่ติดตามความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ส่วนเช้านี้ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญีปุ่น(บีโอเจ)

ประกาศราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับขึ้นตามทองคำโลกได้ไม่มาก 50 บาท เนื่องมาจาก เงินบาทที่ยังคงแข็งค่าในรอบ 1 ปี บริเวณ 29.80 บาท เป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นได้ไม่มากดังกล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK