ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (28 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น ได้แรงหนุนจากตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐที่ดีกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว แม้มีการเปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 3.5% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,882.37 จุด พุ่งขึ้น 579.20 จุด หรือ 1.91% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,820.19 จุด ทะยานขึ้น 69.42 จุด หรือ 1.85% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,433.72 จุด ปรับขึ้น 163.12 จุด หรือ 1.23%
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 67,000 ราย สู่ระดับ 847,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 875,000 ราย จากระดับ 914,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 203,000 ราย สู่ระดับ 4.77 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ ที่ระดับ 5.05 ล้านราย
วันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.0% เมื่อเทียบรายไตรมาส และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3%
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.5% ในไตรมาส 4/2563 นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 3.5% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4/2563 ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค แม้ว่าการใช้จ่ายในภาครัฐปรับตัวลง
ทางด้าน ทำเนียบขาวประกาศจับตาภาวะผันผวนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในขณะนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ หลังจากที่ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นถึง 1,700% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้
ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งได้เข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรกเมื่อวันพุธ ระบุว่า รัฐบาลกำลังจับตาสถานการณ์ดังกล่าว
นายวิลเลียม กาลวิน เลขาธิการรัฐแมสซาชูเซตส์ เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) สั่งระงับการซื้อขายหุ้น GameStop เป็นเวลา 30 วัน เพื่อลดความผันผวนในตลาด
ราคาหุ้น GameStop มีการซื้อขายที่ระดับ 2.80 ดอลลาร์/หุ้นในเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้น บริษัทประกาศว่าจะปิดสาขามากกว่า 300 สาขา ท่ามกลางปัญหาหนี้สินจำนวนมากที่บริษัทเผชิญอยู่ แต่เมื่อปิดตลาดวานนี้ (27 ม.ค.) ราคาหุ้นพุ่งขึ้นแตะ 347.51 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ปรากฎการณ์ของหุ้น GameStop ถือเป็นเรื่องที่พูดถึงกันอย่างมาก โดยหุ้นดังกล่าวได้พุ่งขึ้นกว่า 130% ในการซื้อขายวานนี้ และมากกว่า 400% ในสัปดาห์นี้ และถูกมองกันว่าเป็นการรวมตัวกันของนักลงทุนรายย่อยของสหรัฐ เพื่อสั่งสอนกองทุนบริหารความเสี่ยง หรือเฮดจ์ฟันด์ รายใหญ่ ที่มักเก็งกำไรด้วยการเทขายหุ้นในตลาด
ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนใน WallStreetBets ซึ่งเป็นบอร์ดย่อยใน Reddit เว็บบอร์ดที่มีสมาชิกกว่า 4 ล้านราย และเป็นแหล่งที่นักลงทุนรายย่อยมักเข้าสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการซื้อขายหุ้นในตลาด ได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้น เพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ทำชอร์ตเซลก่อนหน้านี้ เนื่องจากคาดการณ์ว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า
การดำเนินการดังกล่าวของนักลงทุนรายย่อยทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี การทะยานขึ้นอย่างผิดปกติของราคาหุ้น GameStop ได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และกำลังกดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้น 62% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปี สู่ระดับ 37.32 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2563
ดัชนี VIX เคยพุ่งขึ้นสูงถึง 82.69 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในช่วงที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 ในปีที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สหรัฐอ่วม! เศรษฐกิจปี 63 หดตัว 3.5% หนักสุดรอบ 74 ปี
- ‘พาวเวล’ ระบุ ‘โควิด’ ชี้ชะตาเศรษฐกิจสหรัฐ ย้ำ ‘นโยบายคลัง’ เครื่องมือช่วยฟื้นตัว
- เฟดชี้ ‘การจ้างงาน’ ในสหรัฐยังไม่ฟื้น รอจนกว่าถึงปี 2023
