ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (12 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง 475.84 จุด เหตุนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ และกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,983.24 จุด ลดลง 475.84 จุด หรือ -1.24% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,123.41 จุด ลดลง 75.65 จุด หรือ -1.46% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 16,175.09 จุด ลดลง 267.10 จุด หรือ -1.62%
ดัชนีทั้ง 3 ตัวร่วงลงมากกว่า 1% และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500ปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลบ โดยกลุ่มวัสดุร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุด ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 6.5% หลังเปิดเผยผลกำไรเพิ่มขึ้น 6% แต่คาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ยต่ำกว่าคาด
ขณะที่ แบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานว่า หุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐ เจอกับยอดเงินไหลออกรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันพุธ (10 เม.ย.)
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากอิหร่านขู่แก้แค้นอิสราเอล ที่ทิ้งระเบิดใส่สถานทูตของอิหร่านในกรุงดามัสกัส ของซีเรีย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ คงดอกเบี้ยตามคาด ส่งสัญญาณ ‘ลดดอกเบี้ย’ 3 ครั้ง ปี 67
- ‘แบงก์ชาติญี่ปุ่น’ ยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบ ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกรอบ 17 ปี
- แบงก์รัฐจีนเทขายดอลลาร์ สกัด ‘เงินหยวน’ อ่อนค่าทะลุ 7.2 หยวน หลังแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg