ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (12 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง 359.49 จุด หลังจากหุ้นเติบโตระดับเมกะแคป (megacap) และหุ้นชิปส่วนใหญ่พากันปรับตัวลง ขณะที่หุ้นธนาคารใหญ่บางตัวร่วงลง หลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสออกมาแย่กว่าที่คาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ล่าสุดอยู่ที่ 38,099.59 จุด ร่วงลง 359.49 จุด หรือ 0.93% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 5,139.09 จุด ลดลง 59.97 จุด หรือ 1.15% และดัชนีแนสแด็กที่ 16,220.80 จุด ดิ่งลง 221.39 จุด หรือ 1.35%
ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) เปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ว่า มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6% ในไตรมาสแรก แต่ราคาหุ้นร่วงลงหลังจากที่เจพีมอร์แกนประมาณการรายได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
หุ้น 10 กลุ่ม ใน 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลงมา นำโดยกลุ่มสารสนเทศ ที่ร่วงลง 1.3%
ขณะที่ แบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานว่า หุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐ เจอกับยอดเงินไหลออกรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันพุธ (10 เม.ย.)
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ คงดอกเบี้ยตามคาด ส่งสัญญาณ ‘ลดดอกเบี้ย’ 3 ครั้ง ปี 67
- ‘แบงก์ชาติญี่ปุ่น’ ยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบ ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกรอบ 17 ปี
- แบงก์รัฐจีนเทขายดอลลาร์ สกัด ‘เงินหยวน’ อ่อนค่าทะลุ 7.2 หยวน หลังแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg