Stock

สบน. แจงยิบ การออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ อยู่ในขั้นตอนศึกษาทุกมิติ

สบน. แจงข่าวกระทรวงการคลัง ออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ย้ำต้องพิจารณาครอบคลุมทุกมิติ

นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ โฆษก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเผยแพร่ทางออนไลน์ (Online) เกี่ยวเนื่องกับการออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Bond : FCY) ของกระทรวงการคลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในหลายประเด็นนั้น

พันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการระดมทุนของรัฐบาลว่า ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา สบน. ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นแหล่งระดมทุนที่ยั่งยืนให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านการออกตราสารหนี้ระยะสั้น และพันธบัตรรัฐบาลอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Benchmark Bond) ตั้งแต่รุ่นอายุ 3 ถึง 50 ปี ให้มีปริมาณที่สามารถสร้างสภาพคล่องในตลาด สำหรับการสร้างเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ให้เป็นต้นทุนอ้างอิงให้กับภาคเอกชนได้ ทำให้ที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ สามารถรองรับการระดมทุนของรัฐบาลได้อย่างมีเสถียรภาพ และมีต้นทุนที่เหมาะสม

กระทรวงการคลัง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีดำริให้ สบน. ศึกษาแนวทางการระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศ (FCY Bond) เพื่อรองรับความผันผวนของตลาดการเงิน กรณีที่ตลาดตราสารหนี้และตลาดการเงินในประเทศอยู่ในสภาวะตึงตัว

ทั้งนี้ สบน. สามารถพิจารณากู้เงินจากต่างประเทศภายใต้ พรบ. หนี้สาธารณะฯ มาตรา 22 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ตามความจำเป็น ประกอบกับประเทศไทยมีหนี้สาธารณะคงค้างที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ณ ธันวาคม 2566 อยู่ในระดับต่ำหรือคิดเป็นเพียง 1.4% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด

จินดารัตน์ วิริยะทวีกุล
จินดารัตน์ วิริยะทวีกุล

ขณะนี้ สบน. อยู่ระหว่างศึกษาวิเคราะห์สภาวะตลาด รวมถึงการพิจารณาข้อดี ข้อเสียจากการออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Bond: FCY Bond) โดยเบื้องต้นพบว่า ต้นทุนการออก FCY Bond โดยรวมยังสูงกว่าการระดมทุนภายในประเทศ ซึ่งต้นทุนเป็นปัจจัยที่ สบน. ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

อย่างไรก็ดี การออก FCY Bond ของรัฐบาลจะสามารถสร้างผลเชิงบวกในมิติอื่น ๆ อาทิ 1. สามารถช่วยให้รัฐบาลไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่กว้างขึ้น 2. ลดโอกาสของการแย่งชิงเม็ดเงินจากภาคเอกชน (Crowding Out Effect) และ 3. ทำหน้าที่เป็นต้นทุนอ้างอิงให้กับภาคเอกชนของไทยที่จะออก FCY Bond ได้

ดังนั้น เพื่อความรอบคอบและเกิดประโยชน์กับการบริหารการเงินและการคลังในภาพรวม มีต้นทุนและความเสี่ยงที่รับได้ และสอดคล้องกับการรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด สบน. จะวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้นกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุม ทั้งมิติของทางด้านต้นทุนและการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน และมิติที่จะส่งผลต่อประโยชน์ในการระดมทุนของภาคเอกชน รวมถึงความคุ้มค่าต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมอย่างเหมาะสมต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo