Stock

แนวโน้มระยะยาวหุ้น SCB ปันผลแกร่งสูงกว่า 6%

จุดแข็งที่เป็นเสน่ห์ของ SCB ให้นักลงทุน ถือเป็นโอกาสเข้ามาทยอยสะสม นั่นคือผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ ปันผลยังแกร่งสูงกว่า 6%

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น SCB ปัจจุบันนั้นเป็นมากกว่าธนาคาร แต่เปรียบเสมือนยานแม่ ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่เป้าหมายในการมองหาโอกาสการลงทุน และจัดสรรเงินลงทุนในธุรกิจที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและสร้างการเติบโตให้กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจการเงิน ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน และดิจิทัลแพลตฟอร์ม

ความโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมาของ SCB คือการเป็นหุ้นที่มีรากฐานธุรกิจที่ค่อนข้างมั่นคง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีผลประกอบการที่เข้มแข็ง สามารถผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้อยู่เสมอ ซึ่งสะท้อนมาถึงอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่อยู่ในระดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม

ข้อมูล ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2566 ระบุว่า SCB มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 340,077 ล้านบาท มี P/E อยู่ที่ระดับ 8.57 เท่า P/BV ที่ระดับ 0.73 เท่า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 6.50 เท่า และมี Dividend Yield สูงถึง 6.62% จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ 102.50 บาทต่อหุ้น

ปันผล

SCB มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม โดยบริษัทจะพิจารณาถึงผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ซึ่งบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเป็น Holding Company เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เอสซีบี เอกซ์ ก็ได้มีการจ่ายปันผลไปแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงิน 9.19 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCB ถูก Drowgarde ลงไปค่อนข้างมาก สาเหตุหลักมาจากแนวโน้มผลประกอบการในช่วงปี 2566-2567 ที่คาดจะเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ อีกทั้งยังมีความกังวลหนี้เสียของ SCB จะปรับตัวสูงขึ้นจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับกลุ่ม Non-bank มาแล้วก่อนหน้านี้

แต่ว่าจุดแข็งที่เป็นเสน่ห์ของ SCB ให้นักลงทุนถือเป็นโอกาสเข้ามาทยอยสะสม นั่นคือผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ โดยบทวิเคราะห์ บล. หยวนต้า ประเมินว่า SCB จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2566 ที่ 6.14 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield 6.2% และปี 2567 คาดจะจ่ายเงินปันผลรวมที่ 6.78 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield 6.78%

ปันผล

โดยคงมุมมองบวกในระยะยาวกับ SCB จากการเติบโตของธุรกิจ Consumer Finance ที่ให้ผลตอบแทนสูง ส่วนในระยะสั้นมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงได้สะท้อนความผิดหวังของตลาดต่อผลดำเนินงานไปพอสมควรแล้ว จึงมองว่าการฟื้นตัวของราคาหุ้นจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้งในไตรมาส 1 ปี 2567

ด้านมุมมอง บล. เอเซีย พลัส แม้จะปรับลดคําแนะนําหุ้น SCB จาก Outperform เป็น Neutral เพราะมองว่างบไตรมาส 3 ที่ประกาศออกมานั้นอ่อนแอ ด้วย Negative Surprise จาก OPEX สูงกว่าคาดการณ์ แต่ในแง่ของผลตอบแทนจากเงินปันผล ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าปี 2566-2568 จะอยู่ที่ระดับ Dividend Yield 6.7% 6.8% และ 7.0% ตามลำดับ

สุดท้าย มุมมองของ บล. บัวหลวง มีมุมมองว่าคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง ทำให้หุ้น SCB เกิด downside จากประมาณการกำไรและอาจกดดันราคาหุ้นในช่วงสั้น แต่อย่างไรก็ดี ในทางพื้นฐานยังแนะนำ “ซื้อ” จาก Valuations ที่ laggard

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน