Stock

‘เกียรตินาคินภัทร’ เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยรอบ 15 ปี! พร้อมเปิดโพยหุ้นเด่นปี 2024

“เกียรตินาคินภัทร” เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในรอบ 15 ปี  4 ปัจจัยหนุนการลงทุนหุ้นไทย พร้อมเปิดโพยหุ้นเด่นปี 2024

เป็นประเด็นในแวดวงการลงทุนที่น่าสนใจมาก ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ออกรายงาน “The Year Ahead 2024” แนะนำเพิ่มการลงทุนหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี พร้อมวิเคราะห์ภาพรวมการลงทุนในปีหน้าว่าเป็นจังหวะดีที่จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจาก Underweight เป็น Overweight

แม้ว่าในขณะนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่กดดันตลาด และโอกาสการลงทุนค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่เชื่อว่าในปีหน้าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ โดยให้เป้าหมาย SET Index ณ สิ้นปี 2024 อยู่ที่ 1,600 จุด คิดเป็น upside รวมเงินปันผลที่ 17% จากระดับปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2023)

shutterstock 223119784923

4 ปัจจัยหนุนการลงทุนหุ้นไทย 

– การเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น

แม้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะชะลอตัวลง แต่ไทยน่าจะเป็น 1 ในประเทศที่ GDP จะเปลี่ยนแปลงในอัตราที่มากที่สุดโลกในปี 2024 ซึ่งคาดว่า GDP ไทยจะเติบโต 3.7% ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในปี 2023

– ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

ประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2024 ของตลาดอยู่ที่ 99.4 บาท คิดเป็น EPS growth ที่ 17.0% YoY ซึ่งสูงกว่า forward EPS growth 12 เดือน สำหรับตลาดหุ้นโลกที่ 10.5% มาก แต่ต่ำกว่าของตลาดหุ้น EM ที่ 18.9% เพียงเล็กน้อย

– Valuation น่าสนใจ

ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดในปีนี้ ดัชนี SET ปรับลดลงไป -15% (ผลตอบแทนรวม -12.7%) ทำให้ซื้อขายอยู่ที่ P/E เพียง 14.1 เท่า ต่ำกว่า P/E เฉลี่ย 10 ปีที่ 15.1 เท่า นอกจากนี้ ดัชนี SET ยังน่าสนใจในแง่ผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.5%

– การกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยเกือบตลอดทั้งปีนี้ โดยมีเงินทุนไหลออกถึง 1.8 แสนล้านบาท ขณะนี้ สัดส่วนการถือหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 24.8% (ไม่รวม Delta ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มี free float ต่ำ) เทียบกับช่วงเดือนสิงหาคม 2021 ที่สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 24% ทั้งนี้ เชื่อว่าการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยหนุนให้มีการ re-rating ตลาดหุ้นไทย

หุ้นแนะนำน่าลงทุนปี 2024

โดยแบ่งเป็นหุ้นแนะนำสำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น กรอบระยะเวลา 3-6 เดือน ตามคาดการณ์ว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น และกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว โดยเป็นพอร์ตหลักสำหรับกรอบระยะเวลา 12 เดือน

หุ้นแนะนำระยะสั้น ได้แก่ 

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์: หุ้น LH หรือ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

กลุ่มโรงแรม: หุ้น MINT หรือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

กลุ่ม Cyclicals: หุ้น SCGP หรือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)

shutterstock 1704467008 2

หุ้นแนะนำระยะยาวสำหรับพอร์ตหลัก ได้แก่ 

หุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่อง ได้แก่ หุ้น ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน), CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)

หุ้น Blue Chip ต่างชาติสนใจ ได้แก่ หุ้น BBL หรือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน), GFPT หรือ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน), MINT หรือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), PLANB หรือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ SCB หรือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)

หุ้นธรรมาภิบาลดี (ESG) ได้แก่ หุ้น CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนหุ้นไทยในปี 2024 ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ เศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าคาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับขึ้น เงินบาทอ่อนค่า และประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนปรับลดลง

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน