“เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์” เดินหน้าเต็มสูบ!! ไตรมาส 3/2566 โกยกำไรสุทธิ 153.5 ล้านบาท โต 26.8% จากไตรมาสก่อน โชว์จุดแข็งกลุ่ม onee ผนึกกำลัง สร้างรายได้เติบโตหลายช่องทาง
บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ onee คอนเทนต์ครีเอเตอร์ชั้นนำ ครบวงจรของประเทศไทย สรุปรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 153.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26.8 % จากไตรมาสก่อน และมีรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3 งวด 3 เดือน เท่ากับ 1,736.7 ล้านบาท เติบโตขึ้น 151.4 ล้านบาท หรือ 9.5% จากไตรมาสก่อน และเติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 109.2 ล้านบาท หรือ 6.7%
จากการที่กลุ่มบริษัทได้วางแผนกลยุทธ์ให้มี Business proposition เป็น เอนเตอร์เทนเมนท์ และ ไลฟ์สไตล์ครบวงจร ทำให้มีเเหล่งที่มาของรายได้จากหลายช่องทาง นอกเหนือจากการบริการโฆษณา และการประชาสัมพันธ์ และบริการเวลาออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ (TV Ads.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสร้างคอนเทนต์คุณภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเป็นแกนหลักเพื่อสร้างรายได้ทั้งจาก โทรทัศน์ ออนไลน์ ลิขสิทธิ์ และ บริการด้านการผลิต
รวมถึงกลยุทธ์ Idol Marketing ที่มีแผนต่อยอดทั้งศิลปินที่มีชื่อเสียงอยู่เเล้ว เเละสร้างศิลปินหน้าใหม่ให้เข้าสู่ตลาดระดับสากลมากขึ้น เหล่านี้ถือเป็นจุดแข็งของกลุ่มบริษัทโดยในไตรมาส 3 ปี 2566 กลุ่มบริษัทมีแหล่งที่มาของรายได้ที่โดดเด่น ดังนี้
รายได้การจัดคอนเสิร์ตเติบโตก้าวกระโดด
รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตในไตรมาสนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถทำรายได้ถึง 255.8 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 74.2% และคิดเป็น 49.5 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน และธุรกิจขายสินค้า ซึ่งเป็นสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับศิลปิน ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน โดยในไตรมาสนี้ บริษัทมี Idol ที่โด่งดัง อย่าง แจม-ฟิล์ม ไบร์ท นรภัทร ต้าห์อู๋-ออฟโรด ฯลฯ
บริษัทสามารถเชื่อมโยงไอดอลให้เข้ากับพันธมิตร และผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปินมีตัวเลขรายได้ถึง 251.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12.0% จากไตรมาสก่อน และ 49.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์
ทำตัวเลขรายได้อยู่ที่ 269.8 เติบโตจากไตรมาสก่อน 24.4 % ซึ่งเป็นการขายลิขสิทธิ์ละคร-ซีรีส์ ไปฉายบนแพลตฟอร์ม OTT ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงการบริหารงานแบบ Dynamic ที่จับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ และจัดสรรช่วงเวลาการออกอากาศตามช่องทางต่าง ๆ ทำให้สามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้สูงขึ้น
ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมในไตรมาสนี้ ได้แก่ ละครฟอร์มยักษ์เรื่อง “พนมนาคา” ที่ออกอากาศทางช่อง one31 และบนเน็ตฟลิกซ์ ซีรีส์ “Enigma คน มนตร์ เวท” และ “Homeschool นักเรียนต้องขัง” ทางช่อง GMM25 และบนไพรม์ วีดิโอ
กลุ่มบริษัทยังคงเน้นนโยบายการผลิตคอนเทนต์คุณภาพระดับพรีเมียม เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับพันธมิตร และเพิ่มฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นอีกด้วย
Export to the world ขยายฐานสู่ตลาดโลก
เสริมทัพด้วยกลยุทธ์ Export to the world สร้างโอกาสที่กว้างไกล ผลักดันนำคอนเทนต์ไทยส่งออก และเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก อีกทั้งยังสร้างช่องทางจัดงานอีเวนต์ Fan meet ในต่างประเทศ ที่นอกเหนือจากทวีปเอเชียแล้ว ยังเดินหน้ารุกตลาดโลก ด้วยการขยายฐานนำคอนเทนต์ และศิลปินของกลุ่มบริษัท ก้าวเข้าสู่ทวีปอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง พร้อมทั้งยังมีแผนในการขยายฐานเจาะกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น
สำหรับในไตรมาส 4 ปี 2566 บริษัทมีแผนส่งคอนเทนต์จำนวนมาก ที่ครอบคลุมหลากหลายช่องทาง ทั้งโทรทัศน์ และออนไลน์ และยังมีแผนธุรกิจอีเวนต์ที่อัดแน่นต่อเนื่องตลอดปี ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากตัวเลขการเติบโตดังที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ที่ดำเนินนโยบายตามกลยุทธ์หลัก 3 ส่วนสำคัญที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี คือ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ Idol Marketing และ Showbiz ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม
เป้าหมาย และไลฟ์สไตล์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ถือเป็นอาวุธสำคัญที่จะส่งผลให้ธุรกิจในกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘CK’ โชว์รายได้-กำไร โตต่อเนื่อง ประกาศลุยประมูลเมกะโปรเจกต์ปี 67
- ‘CPF’ เผยยอดขายไตรมาส 3 กว่า 1.4 แสนล้าน
- ‘การบินไทย’ โชว์ผลงานไตรมาส 3 ขยายตัวทั้งรายได้-กำไร จับตาปัจจัยลบไฮซีซัน