ส่องอนาคตหุ้น DELTA หนึ่งในหุ้นยอดนิยม ที่นักลงทุนให้ความสนใจ ในกระดานหุ้นไทย ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงหลายปี นักวิเคราะห์มองการเติบโตของกำไรช่วง 3 ปีต่อจากนี้
DELTA หรือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในหุ้นยอดนิยมที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดในกระดานหุ้นไทย ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตามทิศทางผลประกอบการที่อยู่ในช่วงสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดบริษัทได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2566 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน จำนวน 5,047 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไร 12.5% เพิ่มขึ้นจาก 12% ของงวดเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่เติบโตสูง ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ สร้างสถิติสูงกว่า 5,429 ล้านบาท เติบโต 33.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดขายสินค้าและบริการอยู่ที่ 40,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์รักษาระดับการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนโดยกลุ่มโซลูชันสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Solutions) ที่เติบโตสูงกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ดีซี พาวเวอร์ (DC Power) และพาวเวอร์ซัพพลาย สำหรับระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม (Industrial Automation)
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย รวมถึงศูนย์ข้อมูล Data Center มียอดขายทรงตัวจากไตรมาสก่อน และเติบโตในระดับปานกลางจากฐานสูงของปีที่แล้ว โดยมีการขยายตัวตามแนวโน้มความต้องการเพิ่มข้ึนของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence Application)
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่ผลประกอบการของ DELTA เติบโตแบบน่าประทับใจ และดีกว่าที่ตลาดคาด (Bloomberg Consensus) มากถึง 13% ส่งผลให้ภาพรวมกำไรงวด 9 เดือนปี 2566 อยู่ที่ 12,900 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ทำไมราคาหุ้น DELTA กลับวิ่งเป็นขาลงแบบ Sideway Down สวนทางกับตัวเลขกำไรที่เติบโตขึ้นสวยงาม? เรื่องนี้บทวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย เฉลยว่าอาจเป็นเพราะแนวโน้วการเติบโตที่ช้าลงในอนาคต
ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มไตรมาส 4/2566 แม้จะยังคงเป็นบวก แต่การเติบโตระยะกลางจะเบาบางลง เพราะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าน่าจะโตต่อยากจากปริมาณการสั่งซื้อที่ลดลงจากกลุ่มลูกค้าในยุโรป ส่วนธุรกิจ Data Center รายได้น่าจะทรงตัว ยังไม่รวมธุรกิจอื่นๆ ของบริษัท เช่น ธุรกิจพัดลมและผลิตภัณฑ์ระบายความร้อน และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและโทรคมนาคมในต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเรื่อยๆ
และเชื่อว่าการเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ คาดจะลดลงเหลือราว 23% จากที่เคยเติบโตระดับ 50% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจ Data Center ที่ไม่ได้เติบโตโดดเด่นเหมือนอย่างที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมองเห็นการชะลอตัวในส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น พัดลมและผลิตภัณฑ์ระบายความร้อน รวมถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและโทรคมนาคมในต่างประเทศ
ดังนั้น เมื่อหุ้นไม่ได้ Growth เหมือนในอดีต ตลาดอาจจะต้องปรับประมาณการลดลง เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลง ซึ่ง บล. กสิกรไทย ลดคำแนะนำหุ้น DELTA เป็น “ถือ” พร้อมลดราคาเป้าหมายจาก 100 บาทต่อหุ้น เป็น 87 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อน PER ที่ลดลงจากแนวโน้มการเติบโตที่หดตัวลง
นอกจากนี้ ในคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาส 3 ของ DELTA ก็ระบุว่าสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการค้าและการลงทุน รวมถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงในภูมิภาคต่างๆ ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ชะลอตัวลงสำหรับสินค้าบางกลุ่ม เช่น กลุ่มพัดลมและระบบจัดการความร้อน (Fan & Thermal Management) กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เนื่องจากดีมานอ่อนตัวในตลาดยุโรป ทำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังและปรับแผนงานสำหรับโครงการต่างๆ พร้อมมุ่งเน้นการบริหารสินค้าคงคลัง ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่มีความท้าทาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลงทุนหุ้น หุ้นกู้ ทองคำ เงินฝาก ยาว 10 ปี แบบไหนให้ผลตอบแทนสูงสุด?
- ส่องกลยุทธ์การลงทุน 3 หุ้นเด่นเดือน พ.ย. คาดหุ้นไทยขึ้นต่อกรอบ 1,400-1,480 จุด
- เจาะหุ้นเด่นรับ ‘แลนด์บริดจ์’ สะพานเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท