ในเวลานี้ตลาดหุ้นไทยตกลงมาเยอะมาก โดย SET Index อยู่ในระดับต่ำกว่า 1,400 จุด และเป็นจุดที่แย่ที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
เรียกว่าเป็นจุดวัดใจของนักลงทุนได้เลยว่าจะยังคงมีความหวังกับตลาดหุ้นไทยและเป็นโอกาสเข้าลงทุน หรือจะถอดใจแล้วกระโดดออกไปหาโอกาสอื่นๆ
สาเหตุหลัก ๆ ที่หุ้นไทยเจอวิกฤติ ยังคงมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ที่กลับขึ้นมาใกล้เคียง 5% หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงอีกระยะหนึ่ง จนกว่าเงินเฟ้อจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ
ประกอบกับความกังวลของสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอลที่อาจยืดเยื้อกว่าที่คิด กดดันให้ตลาดหุ้นช่วงนี้ปรับตัวลงแรงหลายวันติดต่อวัน
อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์ บล. บัวหลวง มีมุมมองต่อเรื่องนี้ว่านี่เป็น “บททดสอบครั้งสุดท้าย” โดยเป็นจังหวะเข้าช้อนหุ้นพื้นฐานเก็บไว้ สำหรับนักลงทุนสาย VI หรือ Value Investmetor โดยให้เหตุผลสนับสนุน ดังนี้
- บอนด์ยีลด์เริ่มนิ่ง ความผันผวนของตลาดลดลง
ปัจจัยหนุนที่จะหนุนการรีบาวด์ของหุ้นไทย มาจากความผันผวนในตลาดพันธบัตร ที่คาดว่าจะเริ่มน้อยลง โดยเฉพาะในสหรัฐ เมื่อผ่านพ้นการประชุมเฟด วันที่ 1 พฤศจิกายน และหากเฟดคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามที่ตลาดคาด ทำให้จะเริ่มเห็นบอนด์ยีลด์ในตลาดสหรัฐที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลมาถึงบอนด์ยีลด์ไทย ให้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
- ภาวะสงครามในอิสราเอลคาดอยู่ในวงจำกัด ไม่กระทบจนราคาน้ำมันดิบพุ่งทะยาน
ขณะที่ประเด็นเรื่องสงครามแม้จะยังคงยืดเยื้อ แต่จะถูกตีวงจำกัด ไม่น่าลุกลามไปถึงระดับสงครามโลก หรือสงครามข้ามภูมิภาค เพราะฉะนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบจนกระทั่งดันราคาน้ำมันดิบให้พุ่งทะยานไปมากกว่านี้แล้ว
- ปัจจัยในประเทศ เรื่องการแจกเงินดิจิทัล เริ่มเห็นแนวทางชัดเจน
แม้กระแสดราม่าของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะยังไม่จบ แต่เชื่อว่าความกังวลในตลาดหุ้นพร้อมจบแล้ว หลังเริ่มเห็นแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนขึ้น
- ดัชนีหุ้นไทยเข้าเขต Super Oversold ที่บริเวณ 1,330 จุด
ปัจจัยเชิงเทคนิคชี้ว่าดัชนีหุ้นไทยอยู่ใกล้โซน 1,330 จุด กำลังจะเข้าเขตขายมากเกินไป หรือที่เรียกว่า Super Oversold ในกราฟ รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ทำให้คาดว่าแรงขายระยะสั้นจะเริ่มแผ่วลงหากไม่เกิดภาวะ Panic sell
กลยุทธ์ บล.บัวหลวง สำหรับในระยะสั้น แนะนำซื้อเล่มรีบาวด์ ในกลุ่มที่เล่มตรงข้ามกับบอนด์ยีลด์ จากความสัมพันธ์ของราคาหุ้น กับผลตอบแทนพันธบัตร เช่น หุ้นโรงไฟฟ้า และ หุ้นสินเชื่อส่วนบุคคล
ส่วนกลยุทธ์ในระยะยาว มองว่าการที่ช่วงนี้หุ้นไทยปรับตัวลงมาแรงมาก ควรเน้นการช้อนซื้อกองทุนรวมที่เน้นหุ้นพื้นฐานในประเทศ โดยเฉพาะใครที่ต้องการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี สัปดาห์นี้ต้องถ่วงน้ำหนักให้มากกว่าปกติ
สำหรับหุ้นแนะนำ ได้แก่ ADVANC จากผลประกอบการดีต่อเนื่อง การแข่งขันลด หนุน ARPU, BCH จากผลประกอบการดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากปัจจัยฤดูกาล และฐานผู้ป่วยปกติกลับมา
GULF เป็นหุ้น Top Pick กลุ่มโรงไฟฟ้าที่ได้รับผลลบจากข่าวช่วงนี้น้อย จนราคาลงไปถูกกว่าพื้นฐานมาก เหมาะกับการสะสมเล่นรีบาวน์ระยะสั้น หรือแม้แต่ลงทุนระยะยาว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 10 หุ้นสื่อ มูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นไทย มีอะไรบ้าง
- 9 เดือนแรกปีนี้ หุ้นอะไรบ้างให้ผลตอบแทนสูงสุด
- ส่องกลยุทธ์ลงทุน 5 หุ้นเด่น IAA Consensus ปัจจัยพื้นฐานดี ระยะยาว