ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายน 2566 ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET Index ร่วงไปกว่า 200 จุด กลายเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในโลก ล่าสุดในเดือนกันยายน หุ้นไทยเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ของกลุ่มหุ้นเติบโตและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของ Bond Yield สหรัฐ หลังผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ทั้งนี้ Forward P/E ของตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 อยู่ที่ระดับ 5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.8 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 22.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.7 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 อยู่ที่ระดับ 15% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.39%
แม้ภาพรวมของตลาดหุ้นจะไม่ใช่ปีที่สดใสเท่าไหร่นัก แต่อย่างที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส มีหุ้นลงก็ต้องมีหุ้นขึ้น เพราะฉะนั้น บทความนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูล 10 หุ้นไทยที่ราคายังคงแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา
1. RP หรือ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 50.41%
2. TGE หรือ บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 26.17%
3. ERWPF หรือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 22.73%
4. KC หรือ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 20.00%
5. K หรือ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 18.09%
6. COCOCO หรือ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 17.72%
7. KCG หรือ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 14.87%
8. STC หรือ บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 11.43%
9. BLA หรือ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 11.22%
10. ASIMAR หรือ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน)
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 11.11%
สำหรับมุมมองต่อทิศทางตลาดหุ้นในช่วงต่อจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกกับเศรษฐกิจของไทยในปี 2566 ซึ่งนำโดยการบริโภคภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการฟื้นตัวของการส่งออก แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับไปยังพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งความเปราะบางของเศรษฐกิจจีน ทำให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ารุนแรง ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง หลักๆ คงมาด้วยเหตุผลของเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางค่าเงินบาท รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เงินบาทอ่อนค่า’ หุ้นอะไรมาแรง!!
- นักลงทุนต้องรู้!! ‘กูรู’ แนะอ่านจุดเสี่ยง ในงบการเงิน
- เงินบาทอ่อนค่า จะลงทุนหุ้นไทยยังไงดี ส่องกลยุทธ์ที่นี่!
