Stock

ดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 2.50% สูงสุดรอบ 10 ปี ซื้อหุ้นกลุ่มไหนดี?

ดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 2.50% สูงสุดในรอบ 10 ปี ซื้อหุ้นกลุ่มไหนดี?

ผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 5/2566 วันที่ 27 กันยายน 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ขึ้นมาแตะระดับ 2.50% ต่อปี โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมอยู่ในทิศทางฟื้นตัว แม้จะขยายตัวชะลอลงในปีนี้จากอุปสงค์ต่างประเทศ ส่วนหนึ่งจากเศรษฐกิจจีนและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ฟื้นตัวช้า

คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัว 2.8% และ 4.4% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ จากแรงส่งสำคัญจากการบริโภคภาคเอกชน ตลอดจนภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาคการส่งออกสินค้ากลับมาขยายตัว อีกทั้งจะได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากนโยบายภาครัฐ

กนง. ประเมินว่าในบริบทที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับศักยภาพ นโยบายการเงินควรดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืน และช่วยเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้

ดอกเบี้ย

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมาย คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6% และ 2.6% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ โดยทิศทางอยู่ในระดับต่ำในปี 2566 จากผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐและผลของฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.4% และ 2.0% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ

การขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้นับเป็นการขึ้น 8 ครั้งติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี หากย้อนไทม์ไลน์วัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2565 โดยเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 0.50% เป็น 0.75% ต่อปี

– ครั้งที่ 2 วันที่ 28 กันยายน 2565 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.00% ต่อปี
– ครั้งที่ 3 วันที่ 30 พฤษจิกายน 2565 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25% ต่อปี
– ครั้งที่ 4 วันที่ 25 มกราคม 2566 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.50% ต่อปี
– ครั้งที่ 5 วันที่ 29 มีนาคม 2566 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75% ต่อปี
– ครั้งที่ 6 วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.00% ต่อปี
– ครั้งที่ 7 วันที่ 2 สิงหาคม 2566 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.25% ต่อปี
– ครั้งที่ 8 วันที่ 27 กันยายน 2565 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.50% ต่อปี

ว่ากันว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนี้ก็น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และหากไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะเป็นการสิ้นสุดวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นอย่างเป็นทางการ คำถามคือในสถานการณ์แบบนี้ การลงทุนลักษณะไหนที่น่าติดตาม และหุ้นกลุ่มไหนที่น่าสนใจกลับเข้ามาอยู่ในเรดาร์อีกครั้ง?

ดอกเบี้ย11

ทั้งนี้ ทันทีหลังจากที่ กนง. ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พบว่าช่วงบ่ายของวันเดียวกันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้ปรับตัวขึ้นทันทีเพื่อสอดรับกับข่าวดังกล่าว โดยบทวิเคราะห์ บล. หยวนต้า ระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ยในระดับสูง จะส่งผลให้มีโอกาสที่ธนาคารจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามได้ในระยะถัดไป

ทำให้เป็นบวกต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ให้สามารถขยับขึ้นสูงกว่านี้ได้ ในขณะเดียวกันแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยหนุนการฟื้นตัวของราคาหุ้น ดังนั้น แนะนำสะสมหุ้น BBL, KBANK และ SCB

นอกจากนี้ ตามสถิติแล้วตลาดหุ้นทั่วโลกมักปรับฐานลงในเดือนกันยายน และฟื้นตัวในเดือนตุลาคม เพราะการกลับมาเก็งกำไรอีกครั้งตามธีมของ Earnings Season เพราะฉะนั้น มองว่ามีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะชะลอแรงขายและกลับเข้ามาซื้อคืนหุ้นไทยได้บ้าง

โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่งบไตรมาส 3 ปี 2566 น่าจะออกมาดูดี ได้แก่ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มเครื่องดื่ม และกลุ่ม Digital Transformation อาทิ KBANK, SCB, BBL, OSP, CPALL และ BE8 อีกทั้งยังมีกลุ่มสื่อสารที่ Outperform ตลาดได้ต่อเนื่อง ด้วยความสนใจของนักลงทุนสถาบัน จึงแนะนำ “สะสม” ADVANC และ TRUE

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน