ส่อง 6 หุ้นเด่น รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet, การแก้ปัญหาหนี้สิน ลดค่าไฟฟ้า และน้ำมัน
หลังจากการรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ได้แถลงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายที่สามารถทำได้โดยเร็วเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน อาทิ เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet, การแก้ปัญหาหนี้สิน เช่น พักหนี้เกษตรกร ช่วยประคองภาระหนี้สิน ลดต้นทุนทางการเงิน, ลดภาระค่าใช้จ่ายราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ค่าน้ำมัน ตลอดจนการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เป็นต้น
6 หุ้นเด่นรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ทั้งนี้ มุมมองของบทวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย ประเมินว่าจะมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเชื่อว่าบริษัทที่จะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์หลักจากนโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท, อัดฉีดรายได้, ลดค่าครองชีพ และกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย 6 หุ้น ดังต่อไปนี้
1. หุ้น TIDLOR หรือ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 31.40 บาทต่อหุ้น เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่มีหลักประกัน เนื่องจากกลยุทธ์การเติบโตในเชิงอนุรักษ์นิยม (Conservative) ขณะที่แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมูลค่าหุ้นที่ถูกลง ทำให้มีโอกาสเข้าลงทุน
2. หุ้น CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 77.40 บาทต่อหุ้น เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ด้วยการเป็นผู้ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
3. หุ้น MEGA หรือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน)
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 49.20 บาทต่อหุ้น โดยมองว่า ณ ปัจจุบัน การประเมินมูลค่าหุ้นของ MEGA นั้นถูกเกินไป ซึ่งบริษัทมีข้อได้เปรียบจากแนวโน้มทางธุรกิจที่เหนือกว่าคู่แข่ง
6 หุ้นเด่นรับอานิสงส์
4. หุ้น AP หรือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.20 บาทต่อหุ้น มีความน่าสนใจจากแนวโน้มกำไรที่สูงทำสถิติใหม่หลายปีติดต่อกัน และมี Dividend Yield ที่สูงกว่า 5.5% หนุนคำแนะนำของฝ่ายวิเคราะห์ นอกจากนี้ การตอบรับคอนโดใหม่ 3 โครงการในไตรมาส 4/2566 จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้นหลักในระยะสั้น
5. หุ้น BBIK หรือ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 158.34 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 2/66 จะกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ในระยะสั้น
6. หุ้น ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 240.57 บาทต่อหุ้น ถือว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนราคาหุ้น ได้แก่ สภาพแวดล้อมของตลาดมือถือ และ Fixed broadband ที่สามารถแข่งขันได้หลังจากรวมบัญชี ตลอดจนยังมีอัพไซด์จากการประกันรายได้ที่ลดลงหลังจากเข้าซื้อ TTTBB รวมไปถึงการปลดล็อคมูลค่าที่อาจเกิดขึ้น เช่น การแยกสินทรัยพ์รวมถึงเสาสัญญาณ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นลิสต์หุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ และเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานธุรกิจเฉพาะตัวแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยมุมมองของนักวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย นักลงทุนสามารถนำคำแนะนำดังกล่าวสำหรับเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาข้อมูลการลงทุน และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับตัวเองกันได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กูรูตลาดหุ้น’ ตอบชัด! รัฐบาลใหม่เริ่มงานแล้ว แต่ทำไมหุ้นไทยยังไม่ขึ้น?
- อยากเป็นเจ้าของหุ้น Apple ต้องทำอย่างไร ลงทุนผ่านตลาดหุ้นไทยได้มั้ย?
- ขาหุ้นเฮเลย! ‘เศรษฐา’ ยืนยัน 4 ปีรัฐบาลไม่เก็บภาษีขายหุ้นแน่นอน
