Stock

‘ดาวโจนส์’ ขยับขึ้น 60.42 จุด คาดปีนี้ ‘เฟด’ ไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว หลังข้อมูลเศรษฐกิจแย่เกินคาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (30 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับขึ้น 60.45 จุด ขานรับคาดการณ์ “ธนาคารกลางสหรัฐ” จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,913.12 จุด เพิ่มขึ้น 60.45 จุด หรือ 0.17% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,518.63 จุด ขยับขึ้น 21 จุด หรือ 0.47% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,041.16 จุด เพิ่มขึ้น 97.40 จุด หรือ 0.70%

ดาวโจนส์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2566 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.4% หลังจากมีการขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 1

ขณะที่ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง

ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ

ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นในขณะนี้ เกิดจากปรากฏการณ์ “ข่าวร้ายคือข่าวดี” เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จะทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้ซ้ำเติมเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนกันยายน และให้น้ำหนักเพียง 11.5% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.50-5.75%

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน และให้น้ำหนักเพียง 43.3% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

ส่วนในเดือนธันวาคม นักลงทุนให้น้ำหนัก 51.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% และให้น้ำหนักเพียง 40.0% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo