Stock

หุ้น AAV โมเมนตัมติดลม – รายได้กำลังบินสูงขึ้น

หุ้น AAV  โมเมนตัมติดลม รายได้กำลังบินสูงขึ้น ผู้บริหารย้ำครึ่งหลังปีนี้  เพิ่มความถี่เที่ยวบินไปยังตลาดจีนให้ใกล้เคียงกับที่เคยทำได้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 

ธุรกิจสายการบินคือ หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของหุ้นสายการบิน ไล่มาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปี 2565 มีทิศทางที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ พูดง่ายๆ ว่าเจอแต่ตัวเลขสีแดงขาดทุนสุทธิทุกปี

อย่างที่เราจะเห็นว่าสายการบินที่ก่อนหน้านี้ธุรกิจก็ไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่นัก เมื่อเจอโควิด-19 มากระทบเข้าไปอีก ทำให้จำเป็นต้องปรับโครงสร้างองค์กรยกใหญ่ และยอมหยุดพักการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ฯ ชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นสายการบินไทย (THAI) หรือสายการบินนกแอร์ (NOK)

ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียง 2 สายการบิน ที่ยังคงซื้อขายในตลาดหุ้นไทย นั่นคือ AAV หรือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) กับ BA หรือ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม บทความนี้อยากจะขอเจาะไปที่ AAV เป็นหลัก จากสัญญาณของการฟื้นตัวค่อนข้างชัดเจนที่สุด

รายได้

ผลประกอบการของ AAV ที่ผ่านมา

ปี 2561 รายได้ 38,904 ล้านบาท กำไรสุทธิ 69.97 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 41,202 ล้านบาท  ขาดทุนสุทธิ 474 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 16,260 พันล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 4,764 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,558 ล้านบาท  ขาดทุนสุทธิ 6,647 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 18,319 ล้านบาท  ขาดทุนสุทธิ 8,030 ล้านบาท

ตัวเลขผลประกอบการของ AAV มีทิศทางที่แย่ลงชัดเจน แต่เมื่อมีแย่ก็ต้องมีดี ทิศทางที่ย่ำแย่ย่อมมีจุดสิ้นสุด ซึ่งเราเริ่มมองเห็นสัญญาณแล้วจากผลประกอบการล่าสุดของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา โดยบริษัทมีรายได้ 19,657 และขาดทุนสุทธิ 653

แม้จะยังคงเป็นตัวเลขขาดทุนอยู่ แต่ว่าเป็นการขาดทุนลดลงที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนหนักถึง 7,094 ล้านบาท นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2566 AAV มีผลขาดทุนพิเศษอยู่ประมาณ 1,390 ล้านบาท แปลว่าถ้าเราหักการขาดทุนพิเศษออกไป จะทำให้ AAV พลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานทันที

ขณะเดียวกัน ภาพรวมของผลการดำเนินงานก็ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้โดยสารที่ Load factor เพิ่มขึ้น 89% จากเดิม 75% ราคาตั๋วเฉลี่ยอยู่ที่ 1,755 บาทต่อคน ปรับเพิ่มขึ้น 33% และต้นทุนเชื้อเพลิง ลดลง 47% จากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นและต้นทุนเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาน้ำมันที่ทรงตัว

รายได้
ข้อมูล:https://www.aavplc.com/th/home

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV เปิดเผยว่า ในปี 2566 ยังคงเป้าหมายการขนส่งจำนวนโดยสาร 20 ล้านคน เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการ จะทำได้ตามเป้าหมาย โดยไตรมาส 3/2566 คาดจะสามารถรักษาสถิติต่างๆ ได้ทั้งอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร ราคาตั๋ว รวมไปถึงรายได้เสริม ส่วนไตรมาส 4/2566 ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการท่องเที่ยวและการบิน โดยบริษัทจะใช้เครื่องบินจำนวน 52 ลำ จากทั้งสิ้น 54 ลำ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อเนื่อง ดังนั้นเป้าหมายที่บริษัทประเมินไว้จะทำได้แน่นอน

โดย นายสันติสุข  ระบุว่าสำหรับครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าในการเพิ่มความถี่เที่ยวบินไปยังตลาดจีนให้ใกล้เคียงกับที่เคยทำได้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ที่ 138 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมทั้งเพิ่มเส้นทางบินใหม่ อาทิ สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล อัห์มเดบาด ประเทศอินเดีย โดยเชื่อว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวจะยังคงคึกคักไปถึงสิ้นปี เพื่อบรรลุเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวที่ ททท. ตั้งไว้ที่ 25-30 ล้านคน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมให้ฟื้นตัวต่อเนื่องด้วย

รายได้

โดยบริษัทยังคงทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง ในการผลักดันเชิงนโยบายต่างๆ อาทิ นโยบายการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันอากาศยาน ระหว่างนี้ถูกกำหนดให้กลับไปเป็นอัตราเดิมจนกว่าจะมีการพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมทั้งเป้าหมายระยะยาวของอุตสาหกรรม อาทิ การใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เป็นต้น

ด้านบทวิเคราะห์ บล. เคจีไอ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น AAV ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.70 บาทต่อหุ้น จากแนวโน้มกำไรที่จะเติบโตดีขึ้น รับปัจจัยหนุนจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศฟื้นตัวแข็งแกร่ง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนด้านเชื้อเพลิงได้ดี และในอนาคต AAV จะมีการขยายเส้นทางการบินไปยังต่างประเทศ จะเป็นอัพไซด์ต่อไปในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน