Stock

วิเคราะห์ทิศทางหุ้น PTT ลงทุนระยะยาว ร่วมทุนไต้หวันรุกรถไฟฟ้า 2 ล้อ

วิเคราะห์ทิศทางหุ้น PTT ลงทุนระยะยาว ร่วมทุนไต้หวันรุกรถไฟฟ้า 2 ล้อ  รวมถึงให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า 2 ล้อ 

จากกรณีที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ PTT ถือหุ้นทางอ้อม 100% ได้ลงนามสัญญาร่วมทุน และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท Kwang Yang Motor Co., Ltd. (KYMCO) และบริษัท KYMCO CAPITAL PRIVATE EQUITY MANAGEMENT Co., Ltd. (KC) (บริษัทย่อยที่ KYMCO ถือหุ้น)

โดยจะเป็นการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า บริษัท เอไอออเนกซ์ จำกัด (Aionex) ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 600 ล้านบาท ทั้งนี้ Arun Plus จะถือหุ้นในสัดส่วน 51% KYMCO ถือหุ้นในสัดส่วน 29% และ KC ถือหุ้นในสัดส่วน 20%

เป้าหมายของ Aionex เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายและผลิตรถไฟฟ้า 2 ล้อ รวมถึงให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า 2 ล้อ คาดว่าจะจดทะเบียนแล้วเสร็จ และเริ่มจําหน่ายในปี 2566 เป็นต้นไป ซึ่ง KYMCO เป็นบริษัทจากไต้หวันที่มีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในการจัดจำหน่ายและผลิตรถไฟฟ้า 2 ล้อ ด้วยยอดขายรถไฟฟ้า 2 ล้อ เป็นอันดับ 1 ในไต้หวัน และอันดับ 3 ในยุโรป

ลงทุนระยะยาว

ลงทุนระยะยาว รับโมเมนตัมบวก

มุมมองของนักวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส ให้ความเห็นว่าประเด็นข่าวดังกล่าวถือเป็น sentiment เชิงบวกในระยะยาวต่อภาพการดําเนินธุรกิจของหุ้น PTT จึงให้คำแนะนำ “ซื้อลงทุนระยะยาว” ราคาเป้าหมาย 38 บาทต่อหุ้น จากภาพระยะยาวที่ยังเห็นกําไรที่แข็งแกร่งจากการเป็น Holding Company และช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง รวมถึงมีการจ่ายปันผลในระดับดี คาด dividend yield ราว 6% ต่อปี

สำหรับการลงทุนร่วมกับ KYMCO ครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) ของ PTT เพื่อรองรับการเติบโตของ EV และแบตเตอรี่ อีกทั้งถือเป็นส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจดังกล่าว ตลอดจนช่วยสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับบริษัทผู้นําที่มีศักยภาพของโลก

ลงทุนระยะยาว

นอกจากนี้ มองว่าการร่วมทุนดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้ Aionex ก้าวขึ้นเป็นผู้นําในธุรกิจรถไฟฟ้า 2 ล้อ ในประเทศไทยได้ไม่ยาก และมุ่งขยายธุรกิจสู่อาเซียนได้ในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดําเนินธุรกิจ รวมถึงแนวทางการสร้างผลกําไรที่ชัดเจน จึงถือยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม หากมีความคืบหน้าฝ่ายวิจัยจะทบทวนประมาณการ และมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริงอีกครั้ง

ลงทุนระยะยาว

 

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล. กรุงศรี มองว่ากำไรปกติของ PTT ในช่วงไตรมาส 3/2566 จะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) หนุนจากทั้งธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ปรับตัวลดต่อเนื่อง เพราะราคาก๊าซฯ ในอ่าวไทย และ LNG ที่ลดลง

ประกอบกับธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่จะมี stock loss น้อยลง รวมทั้งค่าการกลั่นที่ดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล รวมถึงมีโรงกลั่นบางส่วนปิดซ่อม ในขณะเดียวกัน spread ปิโตรเคมี โดยเฉพาะโอเลฟินส์ที่จะฟื้นตัวตามความต้องการใช้ของประเทศจีน

กลุ่ม ปตท.

โดยมีคำแนะนำ Buy roll over ไปที่ราคาเป้าหมาย 47.5 บาทต่อหุ้น (ราคาเป้าหมายเดิม 46 บาทต่อหุ้น) เนื่องจากธุรกิจก๊าซฯ ฟื้นตัว, กำไรปี 2566 คาดอยู่ในระดับสูงใกล้เคียง Pre-COVID, คาดจ่ายปันผลได้ราว 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield ราว 5.6%, PBV ปัจจุบันอยู่ที่ 0.9 เท่า สะท้อนแรงกดดัน regulatory risk ของธุรกิจก๊าซฯ ไปมากแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน