“ก.ล.ต.” ฟันเพิ่ม “อภิมุข” พร้อมพวกรวม 32 ราย ร่วมปั่นหุ้น MORE วงเงินกว่า 800 ล้านบาท พร้อมส่ง “ปอศ.” เอาผิด
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 32 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) และรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ตามที่ ก.ล.ต.ดำเนินการกล่าวโทษกลุ่มบุคคลรวม 18 ราย ในฐานะตัวการร่วม กรณีร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MORE ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) ประกอบบทสันนิษฐานของมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 (แล้วแต่กรณี) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น
ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในกรณีการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE และพบข้อเท็จจริงรวมถึงพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้เชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ได้แก่
- นายอภิมุข บำรุงวงศ์
- นายเอกภัทร พรประภา
- นายอธิภัทร พรประภา
- นางอรพินธุ์ พรประภา
- นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล
- บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด
- บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด
- นายสมนึก กยาวัฒนกิจ
- นายโสภณ วราพร
- นายวสันต์ จาวลา
- Mr. Shubhodeep Prasanta Das
- นายประยูร อัสสกาญจน์
- นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ
- นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์
- นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
- นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์
- นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ
- นายมั่นคง เสถียรถิระกุล
- นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์
- นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช
- นางสาวสิริรัตน์ สมณาศรี
- นายธีรพงศ์ ด่านวณิชวงศ์
- นายวิศรุต เจียมจิตพลชัย
- นายปรณัฐ นุชาชาติพงศ์
- นายภูดิท สุจริตกุล
- นายวัชรินทร์ ยังให้ผล
- นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา
- นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง
- นายภัทร ฉัตรเจริญสุข
- นายชยพล พันธุ์แพ
- นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณชัย
- นางศศินภา วราพร
ได้ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในช่วงระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม-10 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งด้านความสัมพันธ์ส่วนตัว ทางเงิน การซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงช่องทางและสถานที่ในการส่งคำสั่งซื้อขาย ได้แบ่งหน้าที่กันหรือตกลงร่วมกันในการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาดอันเข้าข่ายเป็นฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 (แล้วแต่กรณี) แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้รับหรือพึงได้รับ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 32 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อ ปปง. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ
ในกรณีนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมโดยประสานความร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย บก.ปอศ. ในการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายในการทำงานเชิงรุกร่วมกันในการสืบสวนและตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับตลาดทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศาลสั่งริบทรัพย์ หุ้น MORE พร้อมดอกเบี้ยมูลค่า 4.4 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน
- ใครโดนบ้าง? ก.ล.ต. ฟันก๊วนปั่นหุ้น MORE 18 รายต่อ บก.ปอศ.
- จับตา!! ปปง. เตรียมยื่นศาลสั่งยึดทรัพย์คดีหุ้น ‘MORE’ 4,470 ล้านบาท!