ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (21 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง 102.35 จุด เหตุนักลงทุนกลับมาเทขายอีกรอบ หลัง “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย จนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,951.52 จุด ลดลง 102.35 จุด หรือ -0.30% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,365.69 จุด ลดลง 23.02 จุด หรือ -0.52% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 13,502.20 จุด ลดลง 165.09 จุด หรือ -1.21%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมุมมองเศรษฐกิจ และนโยบายการเงิน ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรว่า เฟดยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไป หากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางปัจจุบัน
นายพาวเวลย้ำว่า การตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับในการประชุมแต่ละนัด มากกว่าที่จะมีการตั้งธงกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริษัทผลิตชิปร่วงลง แต่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัว เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนพุ่งขึ้น จากราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์
นอกเหนือจากถ้อยแถลงของนายพาวเวลแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐด้วย โดยในวันนี้ (22 มิ.ย.) จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤษภาคม และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคม จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (23 มิ.ย.) เอสแอนด์พี โกลบอล จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนมิถุนายนของสหรัฐ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ อีก 2 ครั้ง หลังคงดอกเบี้ยตามคาด
- กูรูคาดเยนพุ่ง 11% แตะ 120 เยนต่อดอลล์สิ้นปีนี้ หลังเก็งเฟดหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ส่อง 9 หุ้นน่าคบ สยบตลาดผันผวน!