จากกรณีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน 3BB แจ้งต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง ผู้จัดการกองทุน JASIF ขอเลื่อนชำระค่าเช่าสายไฟเบอร์ออปติก ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ออกไปก่อน
ทาง 3BB ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะตลาดธุรกิจบรอดแบนด์มีการแข่งขันสูงขึ้น ประกอบต้นทุนการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท แม้ว่าทาง 3BB จะสามารถชำระค่าเช่าไปแล้วถึง 90% ของค่าเช่าทั้งหมด ทำให้ยอดเงินที่ค้างจ่ายเหลืออยู่ไม่มากแล้วก็ตาม
จากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าก่อนหน้านี้ 3BB ขอเลื่อนจ่ายค่าเช่าแก่ JASIF ออกไป 15 วัน จำนวน 940 ล้านบาท โดยจะขอแบ่งจ่ายชำระค่าเช่าเป็นงวด ๆ
อย่างไรก็ดี 3BB ได้แบ่งทยอยชำระค่าเช่ากับ JASIF มาแล้ว งวดแรกจำนวน 700 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ก็จ่ายอีกจำนวน 200 ล้านบาท ดังนั้น จึงเหลือค่าเช่าอีก 40 ล้านบาท อีกทั้ง 3BB จะต้องจ่ายค่าปรับจากกรณีจ่ายค่าเช่าล่าช้าที่อัตรา 7.50%
ทันทีที่กระแสข่าวนี้ออกมา ก็ส่งผลให้ราคาหุ้น JASIF ให้ปรับตัวลดลงรุนแรง โดยวันที่ 23 มีนาคม ปิดตลาดที่ 7 บาท ติดลบ 9.09% ก่อนที่ในวันที่ 24 มีนาคม จะดีดขึ้นมาเล็กน้อย บวก 0.71% ปิดตลาดที่ 7.05 บาท
3BB ปิดหนี้ค่าเช่ากว่า 40 ล้านบาท
อัปเดตล่าสุด ( 27 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุน JASIF แจ้งว่า ปัจจุบันกองทุนได้รับคำเช่าทรัพย์สินรายเดือนครบถ้วนเต็มจำนวน พร้อมค่าปรับจาก 3BB แล้ว
นอกจากนั้น การปรับค่าเช่าหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่าเช่าของกองทุนจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อกองทุนได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุนเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ บลจ.บัวหลวง ระบุว่า 3BB มียอดค้างชำระบางส่วนจำนวนไม่เกิน 43 ล้านบาท
หลังการแจ้งตลาดดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น JASIF เช้าวันนี้ เปิดตลาดด้วยราคา 7.10 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ +0.7% จากราคาปิดวันก่อนหน้า
โบรกฯ แนะชะลอลงทุน JASIF
บล.กสิกรไทย ระบุว่า การที่ 3BB ขอเลื่อนการจ่ายค่าเช่าให้กับ JASIF และจะเจรจาสัญญาเช่าใหม่ มองว่า JASIF กำลังเจอกับความเสี่ยง จึงแนะนำขาย JASIF ออกจากพอร์ตไปก่อน และมีความเป็นได้ว่าสถานะทางการเงินของ 3BB เลวร้ายกว่าที่คาดไว้ และยิ่งหากดีลซื้อกิจการของ ADVANC ยืดเยื้อออกไป ก็น่าจะยิ่งส่งผลต่อสภาพคล่องมากขึ้น และอาจจำเป็นต้องกลับมาเจรจาปรับโครงสร้างค่าเช่าอีกรอบ
บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าประเด็นนี้สะท้อนปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตบ้านที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้ลงทุนในระยะยาว เพราะฉะนั้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนใน JASIF เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า
ซึ่งเมื่อประมาณการจ่ายผลตอบแทนที่ประมาณ 0.92 ต่อปี ในระยะเวลาที่เหลืออีก 8 ปี จะคิดเป็นผลตอบแทนที่ได้รับ 7.36 บาท เทียบกับราคาปัจจุบัน 7.05 บาท จึงมองว่าไม่คุ้มค่าหากเทียบกับการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
สุดท้ายสำหรับคนที่ไม่รู้ว่า 3BB กับ JASIF มีความเกี่ยวข้องกัน เราขออธิบายสั้นๆ ว่า 3BB เป็นบริษัทลูกของ JAS หรือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ทำธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน ซึ่งได้ทำสัญญาเช่าสายไฟเบอร์ออปติกของ JASIF เพื่อใช้ดำเนินทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศไทย
ปัจจุบัน JAS ถือหุ้นใหญ่ทั้งใน 3BB ที่สัดส่วน 99.87% และถือหุ้นใหญ่ใน JASIF ที่สัดส่วน 19% แต่ล่าสุดได้สินใจขายหุ้นทั้งหมดให้กับ ADVANC ที่มูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท คาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าถือเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมาหรือไม่
แม้ลึก ๆ ADV ANC คงอยากจะซื้อ 3BB กับ JASIF อยู่ดี เพราะคงรับรู้ปัญหาสภาพคล่องอยู่แล้วก่อนจะตัดสินใจทำดีล ทว่าเมื่อธุรกรรมยังไม่จบ หากเกิดเหตุการณ์ความเสียหายหนัก ๆ ขึ้นมา แปลว่า ADVANC ยังล้มดีลได้ทุกเมื่อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หุ้นกู้ AT1’ คืออะไร ทำไมสร้างความกังวลต่อธนาคารไทย
- จับตา ‘หุ้นเด่น’ โอกาสเติบใหญ่ไปกับเศรษฐกิจจีน
- หุ้นอสังหาฯ ก้าวข้ามความท้าทาย
