Stock

ปีแห่งการเปิดประเทศจีน หุ้นเรือเทกอง ‘PSL’ รับประโยชน์เต็มที่

ปี 2566 จีนจะเปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบ หลังจากที่ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์แบบเข้มงวดมานานกว่า 3 ปี ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจจีน และธุรกิจคู่ค้า แต่การที่จีนตัดสินใจเปิดประเทศในปีนี้ จะทำให้หลายอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์ตามไปด้วย หนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจเดินเรือนั่นเอง

หุ้นเดินเรือในน่านน้ำตลาดหุ้นไทยมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เรือเทกอง เรือคอนเทนเนอร์ รวมไปถึงหุ้นเรือขนส่งน้ำมันดิบ และปิโตรเคมีเหลว

อย่างไรก็ตาม หุ้นที่จะได้รับประโชยน์จากการเปิดประเทศจีนรอบนี้คงหนีไม่พ้น “หุ้นเรือเทกอง” เพราะส่วนมากจะเป็นการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ซึ่งมีความต้องการอย่างมากจากจีน

 PSL

มองว่าการเปิดประเทศจีน จะช่วยขับเคลื่อนการฟื้นตัวของ ตลาดเทกองแห้ง ในปี 2566 เนื่องจากการนำเข้าของจีน คิดเป็นกว่า 50% ของตลาดเทกองแห้งทางทะเล ทำให้จีนมีความสำคัญมากกว่าส่วนที่หลือของโลก (ROW : Rest of World) ในตลาดสินค้าเทกองแห้ง ซึ่งจะเข้ามาช่วยชดเชยสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

บทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย เผยว่าด้วย ดัชนี Baltic Dry Index (BDI) ซึ่งตรวจสอบค่าระวางเรือ ของกลุ่มเทกองแห้งทั้งหมดในปี 2565 ที่ผ่านมา ปรับลดลงถึง 30% มาอยู่ที่ 1,560 จุด เพราะถูกกดดันจากอุปสงค์ และการผลิตเหล็กในประเทศจีนที่อ่อนแอจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ตามสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง จากนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ขณะที่การซื้อขายธัญพืชก็ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับขายถ่านหินก็เติบโตช้าลงเช่นกัน ดังนั้น จึงเชื่อว่า ในปี 2566 จะได้เห็นการกลับฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของกิจกรรมเทกองแห้ง

Clarkson Research คาดว่าอุปสงค์การซื้อขายสินค้าเทกองแห้ง จะโตขึ้น 2.2% จากปีก่อน เทียบกับอุปทานที่คาดเพิ่มขึ้น 0.55% โดยอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหนุนจากแร่เหล็ก (+1.0%) ถ่านหิน (+1.7%) ธัญพืช (+4.7%) และสินค้าเทกองประเภทรอง (+2.4%)

 PSL

ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนมาจากการเปิดประเทศจีน การส่งออกธัญพืชของยูเครน ที่ฟื้นตัวขึ้นจากการกลับมาขนส่งทางเรือในเดือนสิงหาคม และการเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายไปเป็นระยะทางที่ไกลขึ้น เพื่อรับมือกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

เพราะฉะนั้น จึงคาดว่าค่าระวางเรือของตลาด BSI ในปี 2566 จะอยู่ที่ 22,963 ดอลลาร์/ลำ/วัน เทียบกับที่ 26,727 ดอลลาร์ในปี 2564 และประมาณ 23,000 ดอลลาร์ในปี 2565

มุมมอง บล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PSL หรือ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) ด้วยราคาเป้าหมาย 19.20 บาท คำนวณด้วย PBV ที่ 1.4 เท่า (+0.5SD) พร้อมคาดว่า PSL จะจ่าย Dividend per Share (DPS) ที่ 1.60 บาท หรือคิดเป็นอัตราตอบแทน 11%

PSL จะได้ปัจจัยหนุนมูลค่าหุ้นมาจาก

  1. การเปิดประเทศของจีน
  2. อุปทานที่ตึงตัวจากยอด orderbook ต่อเรือ ที่อยู่ระดับต่ำ และความเร็วในการเดินเรือที่ลดลงจากหลักเกณฑ์ EEXI ที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
  3. ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน มีโอกาสสงบศึกในปี 2566-2567 ซึ่งคาดจะส่งผลให้อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นอีก เพื่อจะช่วยให้ยูเครนสร้างประเทศขึ้นมาใหม่หลังได้รับความเสียหายจากสงคราม

 PSL

ถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตามองในปีนี้ แม้จะมีความผันผวนสูง แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์มาก ๆ จากโอกาสในการเข้าถูกจังหวะเพื่อสร้างกำไรอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ราคาหุ้น PSL เคยขึ้นไปพีคที่ 31.50 บาท เมื่อปี 2550 และครั้งล่าสุดที่กลับมาไต่ระดับสูงก็คือช่วงเดือนกลางปี 2565 หลังประกาศงบออกมาดีเกินคาด คราวนี้คงต้องติดตามกันต่อว่า ด้วยปัจจัยบวกที่มีมากมายในปีนี้ จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นแรลลี่ได้อีกรอบหรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน