Stock

เปิดสถิติกำไร ‘PTTEP’ หลังทำนิวไฮ รอบ 38 ปี

ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ได้เหนือกว่าความคาดหมาย สำหรับหุ้น PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ที่มีรายได้รวม 339,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวม 234,631 ล้านบาท

และมีกำไรสุทธิ 70,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 48,802 ล้านบาท ถือเป็นผลกำไรสุทธิซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 38 ปีของ ปตท.สผ.

PTTEP

เปิดสถิติกำไรสุทธิ PTTEP ในรอบ 10 ปี

  • ปี 2565 เท่ากับ 70,901 ล้านบาท
  • ปี 2564 เท่ากับ 38,863 ล้านบาท
  • ปี 2563 เท่ากับ 22,664 ล้านบาท
  • ปี 2562 เท่ากับ 48,802 ล้านบาท
  • ปี 2561 เท่ากับ 36,206 ล้านบาท
  • ปี 2560 เท่ากับ 20,579 ล้านบาท
  • ปี 2559 เท่ากับ 12,859 ล้านบาท
  • ปี 2558 เท่ากับ (-31,590) ล้านบาท
  • ปี 2557 เท่ากับ 21,490 ล้านบาท
  • ปี 2556 เท่ากับ 56,154 ล้านบาท

shutterstock 1356042950

การเติบโตในปี 2565 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย โดยมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย (Sales volumes) เพิ่มขึ้น 12% เป็น 468,130 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นการผลิตปิโตรเลียมของโครงการในต่างประเทศ เช่น โครงการโอมานแปลง 61 โครงการมาเลเซีย แปลงเอช รวมทั้งโครงการในประเทศ ได้แก่ โครงการจี 1/61

ผนวกกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในปี 2565 ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยภาพรวมปีนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 96.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงขึ้นอย่างมากจากปี 2564 ที่ 69.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นผลจากอุปทานน้ำมันดิบที่ตึงตัวจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

ทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ไว้ที่ 28.36 ดอลลาร์ พร้อมกันนี้ ปตท.สผ. ยังนำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่นๆ ประมาณ 62,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ อีกด้วย

จากผลประกอบการดังกล่าว PTTEP ได้อนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2565 ที่ 9.25 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้วในอัตรา 4.25 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา จึงมีส่วนที่เหลืออีก 5 บาทต่อหุ้น ที่จะกำหนดวัน Record Date เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 และจะจ่ายในวันที่ 24 เมษายน 2566 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญแล้ว

PTTEP

สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2566 PTTEP ตั้งงบประมาณการลงทุน จำนวน 191,818 ล้านบาท รองรับแผนการเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการจี 1/61, โครงการจี 2/61, โครงการอาทิตย์, โครงการคอนแทร็ค 4, โครงการเอส 1 และโครงการผลิตในประเทศมาเลเซีย

ตลอดจนเร่งผลักดันโครงการหลักที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ แหล่งลัง เลอบาห์ ในโครงการมาเลเซีย เอสเค 410 บี และโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 รวมถึงการเร่งการสำรวจในโครงการต่างๆ ในประเทศไทย มาเลเซีย และโอมาน นอกจากนี้ ได้สำรองงบประมาณ จำนวน 166,052 ล้านบาท สำหรับช่วง 5 ปี (2566 – 2570) เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ รองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน

ด้านแนวโน้มพลังงานในปีนี้ มองว่าความขัดแย้งรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้เกิดวิกฤตพลังงานทั่วโลกและทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และคาดว่าในระยะสั้นเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว กระทบความต้องการพลังงานให้เติบโตลดลง หลังจากนั้นความต้องการพลังงานจะสูงขึ้นในระยะกลาง

แต่มีความเสี่ยงจากการขาดแคลนพลังงานเพราะการลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงจากรัสเซีย ราคาค่าไฟที่สูงจะยังคงมีอยู่ในระยะยาว รวมถึงนโยบายพลังงานของหลายประเทศที่มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยเร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น

PTTEP

สุดท้ายนี้เราได้สำรวจความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการของ PTTEP ที่เติบโตขึ้นชัดเจน บล.เอเอสแอล แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 198.50 บาท อ้างอิง PBV ที่ 1.55 เท่า เทียบเคียงกับค่าเฉลี่ยน้ำมันดิบที่สูงช่วงปี 2555-2556) โดยคงมีมุมมองบวกต่อ PTTEP หลังประเทศจีนประกาศลดความเข้มข้นของมาตรการโควิด-19 ซึ่งเป็นผลบวกต่อกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งการเดินทางและปริมาณการใช้น้ำมัน

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่ากำไรสุทธิที่ออกมาดีกว่าคาด โดยหลักมาจากการขาดทุนจากการด้อย ค่าสินทรัพย์ของโครงการ Mozambique น้อยกว่าคาด และเงินชดเชยในคดีทอนทารา ขณะที่รับรู้กำไรจากการกลับรายการในแหล่ง Oman อยู่ที่ 71 ล้านดอลลาร์ ประกอบกับในการดำเนินงานยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งจะต่อเนื่องไปในปี 2566 ตามราคาน้ำมันดิบที่คงอยู่ในระดับสูง และอุปสงค์ที่มากขึ้นจากกรรยกเลิกมาตรการ โควิด-19 ของจีน ดังนั้น แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเป้าหมาย 190 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน