Stock

ศึกปั๊มน้ำมันสัญชาติไทย ระอุ เมื่อ ‘บางจาก’ ซื้อ ‘ESSO’

ศึกปั๊มน้ำมันไทยระอุ เมื่อ “บางจาก” ซื้อ “ESSO” คาดการแข่งขันของธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ที่น่าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมเปรียบเทียบ 3 ผู้ประกอบธุรกิจปั๊มน้ำมันสัญชาติไทย จำนวนสาขา รายได้ กำไร และมูลค่ากิจการ

จากกรณีที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประกาศเข้าซื้อกิจการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ที่สัดส่วน 65.99% คิดเป็นมูลค่าเบื้องต้นราว 20,000 ล้านบาท โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น และได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระบวนการซื้อขายคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ควันหลงของดีลยักษ์ใหญ่นี้ คือการแข่งขันของธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ที่น่าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อการซื้อขายระหว่าง BCP กับ ESSO สำเร็จ ตามเงื่อนไขแล้วจะยังสามารถใช้แบรนด์ปั๊มน้ำมัน Esso ทำการตลาดได้อีก 2 ปี หลังจากนั้นต้องเปลี่ยนเป็นปั๊มน้ำมันบางจากทั้งหมด

ศึกปั๊มน้ำมันสัญชาติไทย 1 e1673963529969

 

แปลว่าเรากำลังจะเข้าสู่ยุค 3 ก๊กของสถานีบริการน้ำมันสัญชาติไทยอย่างแท้จริง  ประกอบด้วย

1.  ปั๊ม PTT Station ของ OR

2. ปั๊ม PT Station ของ PTG

3. ปั๊มบางจากรวมที่กับปั๊ม Esso ของ BCP ความน่าสนใจก็คือต่อจากนี้บางจากจะเข้ามาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่แข็งแกร่งมากขึ้นทีเดียว

 

เนื่องจากสาขาปั๊มน้ำมันของบางจากจะขยับขึ้นจากหลักพันต้นๆ สู่จำนวนมากกว่า 2 พันสาขาทันที ใกล้เคียงกับแบรนด์อันดับ 1 และอันดับ 2 อย่าง PTT Station และ PT Station ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดของประเทศไทยอยู่ในเวลานี้

เพื่อฉายภาพให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น เราได้สรุปข้อมูลของ 3 ผู้ประกอบธุรกิจปั๊มน้ำมันสัญชาติไทย ชวนเปรียบเทียบตั้งแต่จำนวนสาขา รายได้ กำไร และมูลค่ากิจการ

ปั๊มน้ำมัน

ข้อมูลข้างต้นเป็นการรวมปัํมน้ำมันของ Esso เข้าไปใน BCP แต่อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้รวมผลประกอบการและมูลค่าบริษัทที่มีโอกาสจะเพิ่มเข้ามาอีกกว่าเท่าตัวในอนาคต

ขณะเดียวกันจุดที่เป็นมูลค่าเพิ่มของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในตอนนี้อย่างธุรกิจ Non-Oil  เชื่อว่าจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับ BCP อีกด้วย ชัดเจนที่สุดคงเป็นร้านกาแฟอินทนิลที่เตรียมปูพรมเข้าไปอยู่ในปั๊ม Esso ทุกสาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 1,000 สาขา เทียบกับ Café Amazon ซึ่งมีจำนวนสาขาทั้งหมดอยู่ที่ 4,500 สาขา และร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่มีจำนวน 460 สาขา

นอกจากนี้ BCP ให้เหตุผลถึงการซื้อกิจการครั้งนี้ว่าเป็นไปตามกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมัน เช่น การเพิ่มคลังน้ำมันและสินค้าผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดเก็บน้ำมันได้รวมกว่า 15 ล้านบาร์เรล การสามารถเข้าถึงพลังงานได้ในราคาที่เหมาะสม และการเข้าซื้อครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงโรงกลั่นน้ำมันศรีราชา ทำให้ BCP จะมีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 297,000 บาร์เรลต่อวัน

ปั๊มน้ำมัน

ปิดท้ายด้วยข้อสังเกตเล็กๆ เกี่ยวกับดีลนี้ ด้วยกัน 2 มุมมอง มุมแรกเป็นประเด็นบวกที่เห็นกันชัดเจนนั่นคือ ความแข็งแกร่งและความสามารถทางการแข่งขันที่มากขึ้นของ BCP ในธุรกิจพลังงานและน้ำมัน ทว่าอีกมุมหนึ่งที่น่าจับตามองว่าการที่ BCP รุกเข้าสู่ธุรกิจฟอสซิลมากขึ้นในเวลานี้ จะยังเป็นทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะผู้ประกอบรายอื่นๆ นั้นเริ่มขยับหนีไปสู่พลังงานสะอาด เนื่องจากน้ำมันเป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรงและยังผันผวนมากอีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน