“DELTA” ราคาทะยานสู่ 1,000 บาท เป็นไปได้แค่ไหน? หากจำกันได้เมื่อปี 2563 ราคาหุ้น DELTA เคยวิ่งขึ้นแรงกว่า 1,400% มาแล้ว
นี่คือหุ้นที่อยู่ในเรดาร์ความสนใจของนักลงทุนมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับ DELTA หรือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า (Power management solutions) และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีฐานการผลิตอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ โดยมีโมเดลการทำธุรกิจแบบ B2B มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม
ตลอดช่วงที่ผ่านมา การขึ้นลงของราคาหุ้น DELTA ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบทวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส ได้ทำสถิติพบว่าการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น DELTA ส่งผลต่อ SET Index ประมาณ 68% และที่สำคัญเคยกดดันให้ SET ลงลึกสุดถึง -13.9 จุด และหนุนให้ SET ขึ้นมากสุด +17.3 จุด ภายในวันเดียว
ในวันสุดท้ายของการซื้อขายหุ้นไทยในปี 2565 ราคาหุ้น DELTA ก็ได้สร้างปรากฎการณ์ส่งท้ายตลาดอีกครั้ง วิ่งหน้าตั้งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 876 บาท และมีบางช่วงที่ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดหุ้นไทย ด้วยมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านบาท
แถมเมื่อเปิดปีใหม่มา DELTA ร้อนแรงไม่หยุดไม่หย่อน ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 936 บาท มูลค่าตลาด 1.16 ล้านล้านบาท กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในตลาดหุ้นไทยโดยสมบูรณ์แบบ แซงหน้าทั้ง AOT, PTT, PTTEP, GULF, CPALL และ ADVANC
ราคาทะยานสู่ 1,000 บาท เป็นไปได้ไหม?
ทำให้หลายคนเริ่มมีความผุดขึ้นมาในหัวแล้วว่า DELTA อาจจะทำสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นจริงแล้ว กับการที่ทำราคาทะยานขึ้นไปสู่ 1,000 บาท เพราะหากจำกันได้เมื่อปี 2563 ราคาหุ้น DELTA เคยวิ่งขึ้นแรงกว่า 1,400% มาแล้ว
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง เผยว่า เรายังคงจำเป็นต้องจับตามองแนวโน้มยอดขายของสินค้าปลายทาง ตอนนี้อยู่ในช่วงแรกของการปรับสินค้าคงคลังทั่วทั้งอุตสาหกรรม สำหรับ DELTA ต้องให้ความสำคัญในสองตลาดปลายน้ำ ได้แก่ Data Center / Cloud และ EV โดยคาดว่ากำไรหลักของ DELTA จะเติบโตที่ 130% ในปี 2565 และจะชะลอตัวมาอยู่ที่ 15% ในปี 2566 หรือใกล้เคียงกับการเติบโตในปี 2563 แต่ไม่เชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเหมือนในปี 2563 เพราะมองว่าราคา 700 บาท ยังคงเป็นช่วงที่แนะนำให้นักลงทุน
หนึ่งในเหตุผลก็คือการวิ่งขึ้นในปี 2563 เพราะ DELTA เป็นหุ้นในตลาดเพียงไม่กี่ตัว ที่แสดงผลประกอบการโดดเด่นในช่วงนั้น ทำให้มีพรีเมียมที่บริษัทได้รับจากการที่นักลงทุนไม่มีทางเลือก ทว่าในปี 2565 – 2566 หลายบริษัทกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและรายงานการเติบโตของกำไรมากกว่า 100%
ดังนั้นความน่าสนใจของ DELTA จึงลดลงไป อย่างไรก็ตาม การประเมินมูลค่าดังกล่าวอิง จากสมมุติฐานการเติบโตของกำไรหลักในปี 2565 ที่ 115% หากมีประเด็นสนับสนุนเพิ่มเติม ราคาเป้าหมายอาจจะทะลุที่เคยประเมินไว้ก็เป็นไปได้
มุมมองส่วนตัวเห็นว่าอีกปัจจัยที่หนุนให้ DELTA กลับมาอยู่ในความสนใจก็คือการเข้าสู่การคำนวนดัชนี SET50 ในปี 2566 จึงเป็นที่หมายตาของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ จุดที่เป็นทั้งด้านบวกและด้านลบก็คือการที่บริษัทมี free float ต่ำเพียง 22.3% หรือมีผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่แค่ 1.2 หมื่นคนเท่านั้น จึงทำให้ราคาหุ้นผัวผนได้ง่ายดายด้วยมือของรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย
สุดท้ายนี้รู้ไหมว่าปัจจุบัน DELTA กำลังซื้อขายกันที่มูลค่ากิจการต่อกำไรที่ทำได้ หรือ P/E สูงถึง 87 เท่า เพราะฉะนั้น นักลงทุนรายย่อย หากไม่เซียนสนามจริงๆ การนั่งมองอย่างเงียบๆ อาจจะดูเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการลงไปเล่นเองให้เจ็บตัวเปล่าๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แนะนำ ’10 หุ้นปันผล’ ทำผลงานโดดเด่นในทุกไตรมาสแรก
- ‘ 10 ดีลใหญ่’ แห่งปี 2565 สะเทือนตลาดทุนไทย
- เปิดกำไรหุ้นอสังหาฯ รอบ 9 เดือนปี 2565
