Stock

เปิดกำไรหุ้นอสังหาฯ รอบ 9 เดือนปี 2565

เปิดกำไรหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ในรอบ 9 เดือนปี 2565 คัดจาก 10 หุ้นที่มี Market Cap. สูงสุด มาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ

อสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย เป็นกลุ่มที่มีโมเมนตัมเชิงบวกจากทิศทางธุรกิจที่กลับมาฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวเลขอัตราการเติบโตที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นชัดเจน เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ในเชิงมูลค่าของหุ้นเหล่านี้ก็ยังไม่แพงเกินไปนัก

วันนี้จึงได้รวบรวมผลประกอบการในงวด 9 เดือนปี 2565 ของ 10 หุ้นอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย โดยคัดหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด (Market Cap.) นำมาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าแต่ละบริษัทมีตัวเลขรายได้ กำไร และอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน พร้อมแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคต

เปิดกำไรหุ้นอสังหาฯ e1670336648997

1. LH หรือ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 26,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

2. SPALI หรือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 25,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 6,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

3. AP หรือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 29,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 4,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

4. PSH หรือ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 18,201 ล้านบาท ลดลง 6.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

5. ORI หรือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 10,626 ล้านบาท ลดลง 6.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 2,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

6. QH หรือ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 6,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

7. SIRI หรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 21,898 ล้านบาท ลดลง 1.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 2,488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

8. SC หรือ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 14,329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

9. NUSA หรือ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 1,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ  375 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 704 ล้านบาท

10. BRI หรือ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 4,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

shutterstock 431506495

ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นว่าหุ้นอสังหาริมทรัพย์มีรายได้และกำไรในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับจากเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ยังอยู่ในระดับที่ดีขึ้น เนื่องจากการปรับราคาขาย และอัตราส่วนค่าใชจ่าย SG&A ต่อรายได้ที่ลดลงจากการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการฟื้นตัวของการลงทุนจำนวนมากที่เชื่อมโยงกับการเปิดประเทศอีกครั้ง

บทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เพราะโมเมนตัมเชิงบวกจะยังอยู่ต่อไปจนถึงไตรมาส 4/2565 และต้นปี 2566 จะได้เห็นการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ สู่ตลาดมากขึ้น พร้อมทั้งมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่และเป้าหมายทางธุรกิจในปีหน้าก็จะสูงขึ้นเช่นกัน

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องตาม คือ ภาวะการแข่งขันโดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลางถึงบนที่จะรุนแรงขึ้น ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยจะเติบโตในอัตราที่ลดลง เนื่องจากฐานที่สูงในปี 2565 สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายที่สำคัญต่อแนวโน้มการเติบโตของผู้เล่นในปัจจุบัน ขณะที่การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง รวมถึงมาตรการ LTV อาจส่งผลกระทบต่อดีมานในบางกลุ่ม

ทั้งนี้ เลือกหุ้น AP, SPALI และ LH เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะเชื่อว่าเป็นบริษัทผู้นำที่จะยังคงสามารถสร้างผลการดำเนินงานในระดับที่ดีต่อไปได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน