Personal Finance

‘สิทธิลดหย่อนภาษี’ ปี 2565 มีอะไรบ้าง เช็คความพร้อมก่อนยื่นแบบฯ

ใกล้ถึงเวลายื่นแบบภาษีปี 2565 เตรียมพร้อมแต่เนิ่น ๆ ด้วยการเช็คสิทธิลดหย่อนภาษี ที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้วิธี สามารถใช้สิทธิลดหย่อนอะไรได้บ้าง รวมไว้ให้แล้วที่นี่

เมื่อถึงปลายปี ถือเป็นหน้าที่ของผู้มีเงินได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การเตรียมพร้อมในการเสียภาษี จะช่วยป้องกันปัญหาการชำระภาษีล่าช้า หรือไม่ครบถ้วน และที่สำคัญคือ สามารถใช้สิทธิประโยชน์จากค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ตามที่ กรมสรรพากร กำหนดไว้ได้อย่างเต็มที่

สิทธิลดหย่อนภาษี

 

สิทธิลดหย่อนภาษีปี 2565 มีอะไรบ้าง

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว

1.1 ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

1.2 ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องถามกฎหมาย และคู่สมรสจะต้องไม่มีรายได้

1.3 ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ที่จ่ายให้กับสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี โดยสามีสามารถลดหย่อนภาษี ในกรณีที่ภรรยาไม่มีเงินได้

เอกสารหลักฐานที่ใช้สำหรับการลดหย่อนภาษีคือ ใบเสร็จรับเงิน และใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล

shutterstock 1189492975

1.4 ค่าลดหย่อนภาษีบุตร คนละ 30,000 บาท โดยจะต้องเป็นบุตรโดยกฎหมายหรือบุตรบุญธรรม และบุตรมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุไม่เกิน 25 ปี และกำลังศึกษาอยู่

หรือในกรณีที่บุตรอายุเกิน 25 ปี ขึ้นไป แต่มีสถานะเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้ในกรณีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป และเกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป สามารถลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท

1.5 ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส จำนวนคนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน

1.6 ค่าลดหย่อนภาษีกรณีอุปการะผู้พิการหรือบุคคลทุพลภาพ จำนวนคนละ 60,000 บาท และผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี

2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน

2.1 เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทคู่สมรสไม่มีรายได้ สามารถลดหย่อนค่าเบี้ยประกันของคู่สมรสได้สูงสุด 10,000 บาท โดยเงื่อนไขของค่าลดหย่อนประกันชีวิตคือ ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป

shutterstock 1714288111

2.2 เบี้ยประกันสุขภาพ และเบี้ยประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท

2.3 เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (บิดามารดามีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป)

2.4 เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยเงื่อนไขของค่าลดหย่อนประกันชีวิตคือ ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ ค่าลดหย่อนภาษีที่ใด้รับสิทธิเมื่อรวมกับ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบช.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
-กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุนสงเคราะห์ตรูโรงเรียนเอกชน และ RMF แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

3. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค

3.1 เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี

3.2 เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ สามารถนำมาลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี

3.3 เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง นำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

shutterstock 1407725612

4. ค่าลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

4.1 ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท

5. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

5.1 โครงการช้อปดีมีคืน 2565 สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 ตามที่จ่ายจริง

ทั้งนี้ สินค้าและบริการที่สามารถนำมามาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้า OTOP สินค้าหมวดหนังสือ (รวมถึง E-Book)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo