เตรียมพร้อมจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา วางแผนลดหย่อนภาษีแต่เนิ่น ๆ ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง เช็คได้ที่นี่
สำหรับบุคคลธรรมดา ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีสิทธิลดหย่อนภาษีได้หลายประเภท เพื่อให้จ่ายภาษีได้น้อยลง หรืออาจได้ค่าภาษีคืนเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนที่ดี โดย กรมสรรพากร กำหนดสิทธิที่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้
มาดูกันว่าสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอะไรได้บาง
สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลและครอบครัว
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ใช้สิทธิได้ทุกคน
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และคู่สมรสต้องไม่มีรายได้
3. ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร มีเงื่อนไขดังนี้
- ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงให้กับสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทต่อการตั้งครรภ์หนึ่งครั้ง
- หากตั้งครรภ์สองครั้งในปีเดียวกัน จะได้สิทธิลดหย่อนแยกกันครั้งละไม่เกิน 60,000 บาท ส่วนการตั้งครรภ์ลูกแฝดถือเป็นการตั้งครรภ์ครั้งเดียว
- กรณีที่สามีภรรยายื่นภาษีร่วมกัน ให้คนที่ยื่นภาษีหลักเป็นคนใช้สิทธินี้ แต่ถ้าสามีภรรยาแยกกันยื่นภาษี ผู้ที่ใช้สิทธิลดหย่อนในส่วนนี้ต้องเป็นฝ่ายภรรยาเท่านั้น
4. ค่าลดหย่อนบุตร คนละ 30,000 บาท มีเงื่อนไข ดังนี้
- ต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรมที่มีการจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
- บุตรต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี หรืออายุไม่เกิน 25 ปีและกำลังศึกษาอยู่
- ถ้าอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป ต้องมีสถานะเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
- กรณีเป็นบุตรคนที่ 2 ขึ้นไปและเกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
5. ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา หักลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- บิดามารดามีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30,000 บาท และอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีเงินได้
- ผู้มีเงินได้ต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดามารดา เช่น บิดามารดาจดทะเบียนสมรส หรือบิดาจดทะเบียนรับรองบุตร ส่วนบุตรบุญธรรมไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนนี้
- กรณีบิดามารดามีบุตรหลายคน ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนซ้ำซ้อนระหว่างพี่น้องได้ ต้องทำหนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา (แบบ ล.ย.03) ระบุว่าบุตรคนใดจะเป็นฝ่ายเลี้ยงดูบิดามารดา เพื่อเป็นหลักฐานในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
6. ค่าลดหย่อนอุปการะผู้พิการหรือทุพพลภาพ หักลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- ผู้พิการหรือทุพพลภาพจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
- กรณีคนพิการต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ ส่วนคนทุพพลภาพ ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันถึงภาวะจำกัดหรือขาดความสามารถอันเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพหรือทุพพลภาพ
- ต้องทำหนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ (แบบ ล.ย.04) เพื่อเป็นหลักฐานในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
- กรณีที่ผู้พิการหรือทุพพลภาพเป็นบิดามารดา บุตร หรือคู่สมรสของผู้มีเงินได้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้งสองส่วน เช่น ผู้มีเงินได้มีบุตรเป็นผู้พิการสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้งค่าลดหย่อนบุตรและค่าลดหย่อนอุปการะผู้พิการ
7. ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย ใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
ถ้ามีผู้กู้ร่วม สิทธิประโยชน์จะเฉลี่ยตามจำนวนคนที่ร่วมกู้ เช่น สามีภรรยากู้ซื้อบ้านร่วมกัน จ่ายดอกเบี้ยตามจริงไป 100,000 บาท จะสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนค่าดอกเบี้ยบ้านได้คนละ 50,000 บาท
8. ค่าลดหย่อน ช้อปดีมีคืน 2565 เป็นโครงการกระตุ้นกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศของภาครัฐ โดยให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2565 ด้วย
สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทการออมและการลงทุน
1. เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกินปีละ 9,000 บาท
2. ค่าเบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์
กรณีผู้มีเงินได้ทำประกันชีวิตแบบทั่วไปให้ตนเองสามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกฉบับ รวมทั้งประกันแบบสะสมทรัพย์มาใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีทำประกันชีวิตให้คู่สมรสที่ไม่มีรายได้ สามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสมาใช้ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท โดยกรมธรรม์ประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป และต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย
3, ค่าเบี้ยประกันสุขภาพของตนเอง ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและประกันแบบสะสมทรัพย์ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
4. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ค่าเบี้ยประกันสุขภาพทั้งของบิดามารดาตนเองและบิดามารดาของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสไม่มีรายได้) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่รวมกันสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี บิดามารดาทั้งของตนเองและของคู่สมรสต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
5. ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี หรืออาจลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี กรณีที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป
กรณีใช้สิทธิค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปยังไม่ครบ 100,000 บาท สามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญบางส่วนไปหักลดหย่อนในส่วนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปให้ครบ 100,000 บาทก่อน แล้วค่อยนำส่วนที่เหลือมาหักลดหย่อนตามเงื่อนไขของค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป และต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย รวมทั้งมีการจ่ายผลประโยชน์เป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอ
6. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
7. กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Funds: SSF) ใช้ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
8. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ใช้ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
9. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท
10. เงินลงทุนธุรกิจวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) อาจเป็นการลงทุนในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งหรือในฐานะนักลงทุนอิสระก็ได้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
สิทธิลดหย่อนภาษีประเภทเงินบริจาค
- เงินบริจาคทั่วไป ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษีประเภทอื่นๆ แล้ว
- เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลของรัฐ ใช้ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินที่บริจาคจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษีประเภทอื่นๆ แล้ว
- เงินบริจาคพรรคการเมือง ใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชัชชาติ จัดให้ อยากรู้เอา ‘ภาษี’ ไปทำอะไร ดู ร่างงบฯ ในเว็บไซต์ กทม. ได้เลย
- ‘ปลัดคลัง’ เล็งปัดฝุ่นรีดภาษีลาภลอย พร้อมเดินหน้าทันทีหากรัฐบาลไฟเขียว
- เมื่อไรจะได้เงินคืนภาษี ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91 ทำตามนี้