กบข. แก้กฎหมาย ใกล้เสร็จ คาดประกาศใช้ต้นปีหน้า เปิดทางสมาชิกออมเพิ่มได้จาก 12% เป็น 27% เป็นทางเลือกให้สมาชิกวางแผนเกษียณได้อย่างมั่นใจ
แก้กฎหมายกบข. เพิ่มสัดส่วนการออมครั้งนี้ เป็นการปลดล็อกประเด็นสำคัญที่สมาชิกสอบถาม และแสดงความประสงค์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นั่นคือ การออมเพิ่มกับ กบข. ได้มากกว่า 12%
- สมาชิกสามารถนำเงินชดเชย และเงินประเดิม(ถ้ามี) ไปเลือกแผนการลงทุนได้เช่นเดียวกับเงินสะสม เงินออมเพิ่ม (ถ้ามี) และเงินสมทบ
- สมาชิกที่บรรจุเข้ามาใหม่แล้วไม่ได้เลือกแผนการลงทุน เงินทั้งหมดจะนำไปลงทุนในแผนสมดุลตามอายุ
- ผู้ออมต่อกับ กบข. จะสามารถเลือกแผนการลงทุนได้
- สมาชิกจะสามารถโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอื่นเข้ามายังกบข. ได้
ดร.ศรีกัญญา กล่าวว่าการเพิ่มสัดส่วนเงินออม เพื่อประโยชน์กับสมาชิกให้สามารถมีเงินหลังเกษียณได้อย่างเพียงพอ ซึ่งสัดส่วนที่ 27% เป็นมาตรฐานที่หลายประเทศใช้ ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้สมาชิกมีเงินเพียงพอในวัยเกษียณ
การปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุน ยังเป็นไปตามข้อเรียกร้องของสมาชิก โดยเฉพาะสมาชิกกบข.ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งมองหาแผนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าแผนการลงทุนที่มีอยู่เดิม และยังต้องการส่งเงินสมทบเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การปรับให้มีการเลือกแผนลงทุนได้ เพื่อให้สมาชิกบางกลุ่มมีทางเลือก หากต้องการมีเงินหลังเกษียณเพิ่มขึ้น ก็สามารถเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองได้
“สมาชิกรุ่นใหม่ เด็กรุ่นใหม่ มองหาแผนการลงทุนที่กบข.มีให้เลือกตอนนี้ บางคนอยากได้ที่เสี่ยงมากกว่านี้ หากเข้าใจเรื่องการลงทุน ความเสี่ยงจะมาคู่กับโอกาสการลงทุน กบข.ทำแผนใหม่ออกมา มีแผนหุ้นต่างประเทศ ให้สำหรับนักลงทุนที่เข้าใจ หากเลือกแผนนี้ก็เท่ากับว่าในพอร์ตก็จะมีหุ้นต่างประเทศเยอะ”
ดร.ศรีกัญญา กล่าวอีกว่าแนวโน้มของผู้ที่รับราชการเปลี่ยนไป โดยเฉพาะรุ่นใหม่ที่มีอายุ 20 ขึ้นไป และรุ่นใกล้เกษียณ โดยเราจะมองที่เงื่อนไข เช่น ใกล้เกษียณแล้ว หากเกษียณเงินเย็นแค่ไหน หรือเงินร้อนต้องการถอนเงินทันที ซึ่งทางกบข.จะเข้าไปพูดคุย แต่ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ เราก็จะให้เขาเต็มที่ ส่วนมากสมาชิกเด็กรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้ที่ใกล้เกษียณจะกระตือรือร้นเรื่องแผนการลงทุน
ปรับกรอบแผนลงทุน 10 ปีใหม่
ขณะนี้กบข.เตรียมปรับแผนการลงทุน 10 ปีใหม่ ซึ่งเป็นกรอบการลงทุนระยะยาวของกบข. เนื่องจากแผนเดิมเราใช้มานาน 10 ปีแล้ แต่ขณะนี้สถานการณ์หลายอย่างเปลี่ยนไป จึงต้องมีการปรับแผนให้เหมาะสม
ดร.ศรีกัญญา กล่าวว่ากรอบการลงทุนของกบข. จะมี 3 ระดับ คือ ระยะยาว 10 ปี ระยะกลาง 3-4 ปี และระยะสั้น โดยแผนระยะสั้นและระยะกลางจะเป็นไปตามกรอบของแผนระยะยาวที่วางไว้ ซึ่งกรอบระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะผลตอบแทน 90% มาจากการวางแผนระยะยาว
“ตอนนี้กำลังทบทวนใหม่ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง สะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในข้างหน้า เราเสนอมาตั้งแต่ต้นปี เราใช้เวลาทำมาหนึ่งปีแล้ว คาดว่าปลายปีน่าจะเสร็จ”
สำหรับการลงทุนนั้น กบข.มีคณะอนุกรรมการด้านการลงทุนดูแล ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีทีมลงทุนของกบข.ราว 50 คน ซึ่งถือว่าเป็นทีมที่เก่งมาก แบ่งความรับผิดชอบ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
“ไม่ใช่ตลาดเต้น เราก็เต้นตาม เราไม่ทำ เราเป็นนักลงทุน บางจังหวะ เราทำไม่เหมือนคนอื่น จังหวะที่เขาซื้อ ๆ กัน เราอาจจะขาย เพราะถ้าคิดเหมือนกัน ก็ไม่ได้อะไร เราได้เท่าตลาด เรามีความเชื่อและโมเดลประกอบการวิเคราะห์ในการลงทุน”
ดร.ศรีกัญญา กล่าวว่าการลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น ไซเคิลการลงทุนเปลี่ยนไปและสั้นลง เนื่องจากมีหลายอย่างเปลี่ยนไปจากเดิม ขั้วอำนาจก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่มีสหรัฐฯ แต่ตอนนี้มีจีนเข้ามามีบทบาท อีกทั้งรูปแบบก็เปลี่ยน จากเดิมเราอาจโยกเงินลงทุนจากหุ้นไปพันธบัตรในช่วงตลาดไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้น หุ้นและพันธบัตรดีทั้งสองตลาด และแย่ก็แย่ทั้งสองตลาด
เพิ่มแผนลงทุน เปิดทางเลือกสมาชิก
กบข.ได้เพิ่มแผนลงทุนหุ้น 65% และแผนลงทุนหุ้น 35% เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสมาชิกในการปรับแผนการลงทุนตามแผนทางการเงิน แม้ว่าจะดูแล้วเสี่ยงสูง แต่จริง ๆ แล้วมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนทั่วไป เพราะการเลือกลงทุนมีกรอบการลงทุนที่กระทรวงการคลังกำหนดเอาไว้ว่าสามารถลงทุนสินทรัพย์ประเภทไหนได้บ้าง
“กรอบการลงทุนตามกรอบกระทรวงการคลัง ต้องเลือกลงทุนกลุ่มที่ดีที่สุด “เสี่ยงแล้ว ยังไม่เสี่ยง” เป็นกลุ่มที่ลงทุนได้เท่านั้น มีความเสี่ยงมากและผลตอบแทนสูง เราไม่เอา”
ดร.ศรีกัญญา กล่าวว่ากบข.ไม่ได้เป็นนักเล่นหุ้น แต่เป็นนักลงทุนที่มีกรอบการวิเคราะห์ด้านการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญ และตามกฎหมายกำหนดให้ต้องลงทุนตามสินทรัพย์ที่มั่นคงสูงไม่น้อยกว่า 60% ส่วนที่เหลือกระจายลงทุนหุ้น หรือสินทรัพย์ทางเลือก เช่น โครงสร้างพื้นฐาน น้ำมัน ข้าวโพด เป็นต้น
“ในปีหน้า เราจะเพิ่มแผนลงทุนทองคำ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกเลือก”
ทิศทางผลประกอบการปีนี้ยังเป็นบวก
สำหรับแนวโน้มในปีนี้ ผลประกอบการยังเป็นบวก โดยในครึ่งปีแรก ผลตอบแทนการลงทุน 3.68% ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผลตอบแทนปีนี้ยังสร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิกเพิ่มขึ้นได้
ดร.ศรีกัญญา กล่าวว่าแนวโน้มการลงทุนในระยะต่อไป กบข.ก็กำลังมองไปที่ธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีเทรนด์ที่ดี อย่างเช่นตอนนี้เป็นธุรกิจทางด้านการแพทย์ ด้านยั่งยืน พลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยี
“อะไรที่เป็นธุรกิจใหม่ ๆ เทรนด์ใหม่ ๆ เราก็จับตามอง ปีที่แล้ว ทีมเราเก่งมากไปลงในโมเดอร์น่าด้วย เรามองหลากหลายที่ประเทศไทยยังไม่มี และสอดรับกับกระแสยุคใหม่ด้วย”
ใช้เทคโนโลยีสร้างความเข้าใจสมาชิกมากขึ้น
ดร.ศรีกัญญา กล่าวอีกว่ากบข.มีการสื่อสารผ่านสมาชิกตลอด เพื่อให้รู้ว่ากบข.กำลังจะขับเคลื่อนเรื่องต่าง ๆ ไปข้างหน้าอย่างไร และให้การเป็นสมาชิกจะได้ผลตอบแทนดี
ที่ผ่านมา กบข.มีการสื่อสารกับสมาชิก โดยทำแอพพลิเคชันของกบข.ให้กับสมาชิกสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ นอกจากนี้เรายังมี line และ facebook เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ซึ่งขณะนี้กำลังทำ Clubhouse โดยใช้ภาษาถิ่น 4 ภาค ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง และใช้ภาษาที่แต่ละพื้นที่เข้าใจง่าย เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับสมาชิกข้าราชการ
นอกจากนี้ กำลังทำแพลตฟอร์มที่เรียกว่า digital twin เพื่อให้สมาชิกกบข.สามารถประมาณการเงินออมเพื่อการเกษียณ เป็นเหมือนแบบจำลอง เพื่อใช้ในการจัดสินใจเลือกแผนลงทุนของตัวเองได้ ก่อนจะมีการปรับแผนการลงทุนจริง
“ทีมลงทุนของกบข. จะประเมินให้ว่าควรลงทุนตามความเหมาะสมอย่างไรแต่ละคนได้ คาดว่าจะเปิดให้สมาชิกเข้ามาบริการประเมินแผนการลงทุนได้ปลายปีนี้”
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- สมาชิกกบข. ยื่นขอรับเงินเกษียณได้แล้ววันนี้ จ่ายเงินคืนใน 7 วัน เริ่มต.ค.นี้
- กบข.ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก ครึ่งปีแรก 3.68%
- กบข. มองเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้น แต่ไทยพื้นช้าจากโควิด เตรียมรับพันธบัตรสหรัฐขาขึ้น
