กรมสรรพากร ออกคำสั่งจัดเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศ หากนำเงินเข้าประเทศไทย มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2567
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดี กรมสรรพากร ได้ลงนามในคำสั่งกรมสรรพากร เรื่องการเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัฐฎากร
ทั้งนี้ มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับคนที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 41 แห่งประมวลรัษฎากร ในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว เนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในต่างประเทศ หรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 บุคคลซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยตามมาตรา 41 วรรคสามแห่งประมวลรัษฎากรที่มีเงินได้พึงประเมินเนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในต่างประเทศ หรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากรในปีภาษีดังกล่าว และได้นำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้าประเทศไทยในปีภาษีใดก็ตาม ให้บุคคลนั้นมีหน้าที่ต้องนำเงินได้พึงประเมินเหล่านี้มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษี ตามมาตรา 48 แห่งประมวลรัษฎากรในปีภาษีที่ได้นำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้ามาในประเทศไทย
ข้อ 2 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือตอบข้อหารือ หรือทางปฏิบัติใดที่จัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้เป็นอันยกเลิก
ข้อ 3 คำสั่งนี้ให้เริ่มใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่นำเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2567 เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 15 กันยายน 2566
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราชกิจจาฯ ขยายเวลา ลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 67
- ครม. ไฟเขียว ขยายเวลา ‘ลดภาษี มูลค่าเพิ่ม’ เหลือ 7% ต่ออีก 1 ปี ถึง 30 ก.ย. 67
- คลัง ชี้ ขึ้นภาษี VAT 10% เพื่อกันเงินรายได้ไปใช้ ‘เป็นการเฉพาะ’ ทำไม่ได้ ผิดพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง
