รองโฆษกฯ เผยเกณฑ์ใหม่มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา ความครอบคลุมสถานศึกษาที่ได้รับบริจาคมากขึ้น หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าและต้องบริจาคผ่านระบบ e-Donation ของสรรพากรเท่านั้น
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษาฉบับใหม่ได้มีผลบังคับแล้ว เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 768) พ.ศ. 2566 ซึ่งได้มีการปรับปรุงเกณฑ์การบริจาคให้เกิดความครอบคลุม และลดความเหลื่อมล้ำในการได้รับบริจาคของสถานศึกษาแต่ละประเภท
ทั้งนี้ ตามมาตรการภาษีฯ กำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงิน, บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สิน ให้แก่สถานศึกษา 5 ประเภท ได้แก่
1. สถานศึกษาของรัฐ
2. โรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบ
3. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
4. สถานศึกษาที่ตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
5. สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศอนุมัติ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีฯ ได้แก่ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL) และมหาวิทยาลัยอมตะ
สำหรับมาตรการภาษีฯ ฉบับใหม่ปรับปรุงจากเกณฑ์เดิม โดยได้เพิ่มสถาบันอุดมศึกษาซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศอนุมัติ โดยความเห็นชอบของ ครม. ให้เป็นสถานศึกษาที่ได้รับบริจาค ที่ผู้บริจาคจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย
ทั้งนี้ จะทำให้เกิดความครอบคลุม สถานศึกษาได้รับการสนับสนุน เกิดการพัฒนาเทคโนยี นวัตกรรมตามมา และช่วยลดภาระด้านงบประมาณภาครัฐได้อีกทางหนึ่งด้วย
ตามมาตรการภาษีฯ ยังได้กำหนดว่าการบริจาคสนับสนุนการศึกษาที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้สถานศึกษาทุกแห่งใช้ระบบ e-Donation และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาค
ทั้งนี้ มาตรการภาษีฯ นี้มีผลสำหรับการบริจาคที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2567 โดยสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้น กรณีบุคคลธรรมดาสามารถนำเงินมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่จะไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมิน หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ
ส่วนกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่บริจาคแต่จะไม่เกิน 10% ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา
อ่านพระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับเต็ม คลิกที่นี่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็กด่วน!! สป.ศธ.เรียกบรรจุข้าราชการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 309 อัตรา
- ไฟเขียว ขยายเวลา ‘ลดหย่อนภาษี 2 เท่า’ ผู้บริจาค e-Donation 4 กองทุนวิจัยนวัตกรรม ถึงปี 68
- ครม. ขยายเวลาอีก 4 ปี ‘ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล’ 50% หนุน ‘การจ้างงานผู้พ้นโทษ’ สิ้นสุดปี 68