ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศดีดกลับ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับลง และค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง ในขณะที่ราคาในประเทศปรับขึ้น-ลง 2 ครั้งในวันนี้ ทำราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน
ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ขยับขึ้นตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขยับลงจากจุดสูงสุดในรอบ 14 เดือน
ทองคำในตลาดสปอต เพิ่มขึ้น 0.4% เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,742.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ฟื้นตัวจากวันก่อนที่ปรับลงไป 0.5% ส่วนราคาทองคำตลาดฟิวเจอร์ (COMEX) เพิ่มขึ้น 0.6% เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,742.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำฟื้นตัว จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรล่วงลงมาจากจุดสูงสุดในรอบ 14 เดือน แต่เทรดเดอร์ยังมองว่าแนวโน้มทองคำยังไม่ฟื้นตัวไปไกลมากนักท่ามกลางแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรขาขึ้น และนักลงทุนเริ่มหันกลับไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปอีก 3 ปี
เทรดเดอร์มองว่าเหตุผลว่าทำไมทองขึ้นในช่วงนี้ คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ทั้งของสหรัฐและยุโรปยังไม่ขยับไปไกลมาก ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำอีกครั้ง
“แม้ว่าวันนี้ทองขึ้น แต่แนวโน้มยังไม่เป็นขาขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด หากทองจะขาขึ้นวิ่งไปแตะระดับ 1,800 ดอลลาร์ อาจจะต้องมีปัจจัยเสี่ยงที่แรงพอ แต่ปัจจัยขณะนี้ทองคำยังคงแกว่งตัวตามตลาดพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์”
ความผันผวนของราคาทองคำในต่างประเทศ ส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศ โดยในวันนี้ (19 มี.ค.) มีการปรับขึ้น-ลง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในช่วงเช้าปรับลดลง 50 บาท/บาททองคำ ในขณะที่ภาคบ่าย ปรับขึ้น 50 บาท/บาททองคำ โดยล่าสุดมีดังนี้
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 25,300.00 บาท และขายออก 25,400.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 24,847.24 บาท และขายออก 25,900.00 บาท/บาททองคำ
ราคาทองคำอิงตามราคาในตลาดสปอตที่ 1,741.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และค่าเงินบาทที่ 30.85 บาท/ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- อ่านทิศทางราคาทองคำ ‘ขึ้น-ลง’ ต้องดูว่า’เงินเฟ้อ-ผลตอบแทนพันธบัตร’ใครจะชนะ
- ทองคำในประเทศวันนี้ 19 มี.ค. ร่วง 50 บาท ตามต่างประเทศอยู่ที่ 1,730 ดอลลาร์
- ‘วายแอลจี’ ประเมินเฟดคงดอกเบี้ยหนุนทองฟื้น สั่งจับตาแนวต้านสำคัญ!!