สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 8 ก.พ. 2564 ไม่เปลี่ยนแปลง จากราคาปิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.พ.)
ราคาทองวันนี้ 8 ก.พ. ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 25,700 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 25,800 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 25,241.40 บาท และขายออก ที่บาทละ 26,300 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,812 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ราคาทองคำ Spot เช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ ทรงตัวเท่ากับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้น จากการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ภายหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมกราคม ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ทองไทยเปิดตลาดเช้านี้คงที่ไม่เพิ่มไม่ลด
สัปดาห์นี้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก แม้จำนวนผู้ติดเชื้อทะลุ 100 ล้านคนแล้ว แต่เริ่มมีข่าวดีในหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะ สหรัฐ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งคาดว่า เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ มีให้ติดตามไม่มาก ได้แก่ ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs เดือนธันวาคม ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมกราคม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกนเดือนกุมภาพันธ์ และจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น นอกจากนี้ติดตามการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ของอังกฤษ
ประกาศราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดราคาคงที่ไม่เพิ่มไม่ลด จากประกาศราคาซื้อขายครั้งเดียวเมื่อวันเสาร์ที่ปรับขึ้นเล็กน้อย 50 บาท แต่อย่างไรก็ดี สัปดาห์ที่ผ่านมาทองในประเทศปรับลดลงรวม 400 บาท ขณะที่เงินบาทเช้านี้เคลื่อนไหวที่บริเวณ 30.05 บาท
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยจะมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 1,830 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวรับ 1,800 ดอลลาร์ จะเป็นแนวรับแรก และแนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 1,784 ดอลลาร์
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ Buy the dip ของนักลงทุน ขณะที่แรงซื้อทองคำกายภาพจากจีน ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน และแรงซื้อจากอินเดียฟื้นตัวขึ้นหลังจากราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงในวันทำการก่อนหน้า สะท้อนจากดีลเลอร์ในจีนที่เรียกเก็บค่าพรีเมี่ยมทองคำราว 0.50-5 ดอลลาร์ ส่วนค่าพรีเมี่ยมทองคำในอินเดียปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 6 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการกลับมาอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น 49,000 ตำแหน่งในเดือน มกราคม “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง และสะท้อนว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังมีความไม่แน่นอนสูง
ส่วนประธานาธิบดีไบเดนได้ออกมาเตือนว่า หากสหรัฐยังคงมีการสร้างงานในอัตราปัจจุบัน ก็จะต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าที่จะกลับไปสู่ภาวะการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ
สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,814.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์
อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ จะเร่งให้สภาคองเกรสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงจนบั่นทอนความต้องการทองคำ ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลง 1.9% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุด นับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง 3.33 ตัน
คำแนะนำ เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยการเข้าซื้อมีแนวรับบริเวณ 1,805-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,830-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วายแอลจี เผยสาเหตุทองร่วงแรง! พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น
- จับตาธนาคารกลาง เทขายทองคำ สัญญาณสิ้นสุดราคาทองขาขึ้น
- ราคาทองวันนี้ 12 ม.ค. แนะเก็งกำไรระยะสั้น รูปพรรณขายออก 26,900 บาท