สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 8 ธ.ค. 2563 พุ่งขึ้น 350 บาท จากราคาปิดเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.)
ราคาทองวันนี้ 8 ธ.ค. ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 26,500 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 26,600 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 26,029.72 บาท และขายออก ที่บาทละ 27,100 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,867 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ราคาทองคํา Spot ปรับตัวขึ้นแรงเกือบ 30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.41% จากปัจจัยหนุนความคาดหวังที่ว่า สหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในไม่ช้านี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ทองไทยเปิดตลาดขึ้นพรวดตาม ทองรูปพรรณแตะ 27,100 บาท
ข่าวความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ บ่งชี้ว่า สภาคองเกรสจะเร่งพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไม่ช้านี้ หลังจากนาง นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังหยุดชะงัก และอาจจะเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้นในฤดูหนาวนี้
คืนวันนี้ไม่มีรายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ แต่ให้ติดตามความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดทองคำ รวมถึงติดตามประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น และยูโรโซน
ประกาศราคาทองคำในประเทศ เปิดตลาดปรับขึ้นพรวดตามทองคำโลก 350 บาท ส่งผลให้ราคาขายออกทองคำรูปพรรณขึ้นแตะระดับ 27,000 บาท และเป็นระดับสูงสุดใหม่ของปี อย่างไรก็ดีเงินบาทที่แข็งค่าในเช้านี้บริเวณ 30.14 บาท เป็นปัจจัยลบกดดันต่อทองในประเทศปรับตัวขึ้นไม่มากเท่าที่ควร
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ Spot ทางด้านเทคนิคกลับเป็นขาขึ้น หลังจากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ได้ โดยในระยะสั้นคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณ 1,850-1,875 ดอลลาร์ โดยจะมีแนวรับแรกที่บริเวณ 1,850 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,825 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวต้าน 1,875 ดอลลาร์ จะเป็นแนวต้านแรก และแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,890 ดอลลาร์
บทวิเคราะห์ของ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG Bullion and Futures Co., Ltd.) ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 21.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างการซื้อของวานนี้ ทองคำจะร่วงแรงตามการดิ่งลงของเงินปอนด์ จากความวิตกเกี่ยวกับ No-deal Brexit หลัง Reuters รายงานว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าหลังอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หยุดชะงักลง
ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 91.238 จนเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,823.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเวลาต่อมา เพราะดอลลาร์ลดช่วงบวกลง ขณะที่นักลงทุนเทขายดอลลาร์จากความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐ รวมทั้งการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดในบางรัฐซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากความพยายามผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ของสหรัฐอีกด้วย ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวในแดนลบ ท่ามกลางความตึงเครียดจีน-สหรัฐระลอกใหม่ หลังวานนี้ทางการสหรัฐตัดสินใจคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน 14 ราย โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้มีบทบาทในการตัดสิทธินักการเมืองฝ่ายค้านในฮ่องกงไป 4 ราย
ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จนกระทั่งราคาทะลุผ่าน 1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์จึงเกิดแรงซื้อตามทางเทคนิคเพิ่มเติม ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ราคาทองคำพุ่งกว่า 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์แตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,868.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -2.92 ตัน
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB, ประสิทธิภาพการผลิตและประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วย
หลังจากราคาขยับขึ้นแรง และมีแรงขายสลับเข้าไม่มาก แต่หากราคาปรับตัวขึ้นต่อไปเลย อาจต้องระมัดระวัง แรงทำกำไรที่สลับเข้ามาเพิ่ม แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้น จากการแกว่งตัวของราคา แม้ว่าแนวโน้มราคาจะเป็นบวกเพิ่มขึ้นก็ตาม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดกลยุทธ์ลงทุนทองคำ YLG แนะซื้อทองช่วงนี้กำไร 2 เด้ง!!
- เปิดกลยุทธ์ลงทุนทองคำหลังราคาดิ่งหนัก! ‘YLG’ มองระยะยาวยังสดใส
- กางกระเป๋ารอ! ครม.เคาะเติมเงิน 500 บาท ‘บัตรคนจน’ ต่ออีก3 เดือน วัน